SHARE

คัดลอกแล้ว

 

รอบ ผบ.ตร. มั่นใจหลักฐานชัดเจน “เปรมชัย” ร่วมล่าเสือดำ ลั่นการล่าไม่จำเป็นต้องลงมือยิงเอง ชี้ทนายสู้คดีเป็นสิทธิ ฝากประชาชนเฝ้าติดตามคดีนี้ด้วย

วันที่ 3 ธ.ค.2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีทนายความของนายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยคดีร่วมกันกับพวกล่าเสือดำ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี เมื่อต้นเดือน ก.พ. พยายามต่อสู้คดีในชั้นศาลด้วยการพยายามนำสืบว่า ขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายเปรมชัย ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ

คดีนี้มีการสอบสวนชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งหน้าที่กันทำว่าใครรับผิดชอบอะไรบ้าง แม้แต่ซากเสือดำซึ่งมีการแยกชิ้นส่วนหัว กระโหลก เนื้อ หนังจากกัน ตำรวจได้พิสูจน์ทราบจนมีการรวมเป็นตัวเสือ จนเป็นหลักฐานมัดว่าเป็นการล่า ไม่จำเป็นต้องลงมือยิงเอง แต่มีการแบ่งหน้าที่กันทำ เช่น แค่เป็นคนดูต้นทางก็ถือว่ามีความผิดแล้ว ส่วนจำเลยจะเบิกความอย่างไรนั้นก็เป็นสิทธิอยู่ที่ดุลยพินิจของศาล

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในส่วนของสำนวนคดคีทำอย่างชัดเจนว่าแบ่งหน้าที่กันทำจนอัยการพิจารณามีความเห็นสั่งฟ้อง ซึ่งขณะนี้หน้าที่ของตำรวจเหลือเพียงตามพยานทั้ง 32 ปากไปขึ้นเบิกความต่อศาล โดยพยานทั้งหมดยังอยู่ครบถ้วน พร้อมขึ้นเบิกความชัดเจน ส่วนคดีจะมีข้อสรุปเมื่อใด ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลได้

ด้านมูลนิธิสืบนาคะเสถียรได้ สรุปเหตุการณ์ สืบพยานโจทก์ คดีล่าเสือดำ นัดแรก (27-30 พ.ย. 61) ดังนี้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกอีก 3 คน ในคดีล่าสัตว์ป่าในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก คดีอาญาหมายเลขดำที่ 219/2561 โดยในวันสืบพยานนัดแรก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้าเบิกความเป็นปากแรก และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เข้าเบิกความเป็นปากที่ 2

พล.ต.อ.ศรีวราห์ พยานโจทก์ เบิกความแล้วเสร็จเวลาประมาณ 11.30 น. และได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้าติดตามข่าวว่า “มั่นใจว่าอัยการจะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ สามารถเอาผิดกับผู้กระทำผิดตามที่ยื่นฟ้องไปได้ โดยฝากให้ประชาชนได้เฝ้าติดตามคดีนี้ด้วย”

ด้านนายวิเชียร ซึ่งเข้าเบิกความเป็นปากที่ 2 ศาลได้ใช้เวลาซักถามจนหมดเวลาราชการแต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้นัดนายวิเชียรมาสืบพยานต่อในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 จนแล้วเสร็จ ซึ่งหลังสืบพยานเสร็จ นายวิเชียร ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสั้นๆ ว่า “ผมคิดว่าได้ทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วเพื่อเสือดำ และสัตว์ป่าทุกตัวที่ถูกฆ่าไป”

วันแรกของการสืบพยานนัดแรก กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้ยื่นคำร้องให้จำเลยทั้ง 4 ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน 12,750,000 บาท ซึ่งจำเลยทั้ง 4 ให้การปฏิเสธ และศาลกำหนดให้จำเลยทั้ง 4 ยื่นคำให้การแก้คดีเป็นหนังสือภายในวันที่ 11 ธันวาคม 2561

ด้านฝ่ายของจำเลยทั้ง 4 ประกอบด้วย นายเปรมชัย กรรณสูต จำเลยที่ 1 นายยงค์ โดดเครือ จำเลยที่ 2 นางนที เรียมแสน จำเลยที่ 3 และนายธานี ทุมมาศ จำเลยที่ 4 ที่ได้เดินทางมาเข้าร่วมในวันสืบพยานด้วยนั้น มีรายงานจากสื่อมวลชนว่า นายเปรมชัยได้ขอตัวกลับไปก่อนจะระหว่างกำลังสืบพยานฝ่ายโจทก์ และได้ยื่นขอให้อ่านคดีลับหลัง โดยนายเปรมชัยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาศาลก็ได้ในระหว่างสืบพยานโจทก์ แต่จะต้องมาทุกนัดในวันสืบพยานฝ่ายจำเลย

ต่อมาวันที่ 29 และ 30 พฤศจิกายน 256 ได้สืบพยาน นายปิยะพงษ์ สืบเสน ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจำกุม อีก 3 ปาก ประกอบด้วย นายญาณ อ้วนสิงห์ นายประกาศศิต มณี และนายบัญชา ไกรศรีบารมี โดยตลอด 4 วันที่ผ่านมา ได้สืบพยานฝ่ายโจทก์รวมทั้งหมด 6 ปาก และขอไปสืบพยานโจทก์ตามที่นัดไว้ในครั้งต่อไป คือ วันที่ 6 ธันวาคม 2561

นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวว่า ทางฝั่งทนายของนายเปรมชัยพยายามต่อสู้คดีด้วยการพยายามนำสืบว่า ขณะเจ้าหน้าที่จับกุม “นายเปรมชัยไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุที่พบการล่าเสือดำ”

สำหรับรายละเอียดการนัดสืบพยานทั้งหมดนั้น ศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานโจทก์เป็นฝ่ายแรกรวม 10 นัด คือวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2561 วันที่ 6-7 ธันวาคม 2561 วันที่ 11-13 ธันวาคม 2561 และวันที่ 18 ธันวาคม 2561 โดยพยานโจทก์มีทั้งหมด 32 ปาก จากนั้นศาลจังหวัดทองผาภูมินัดสืบพยานจำเลยที่มีอยู่จำนวน 17 ปาก รวม 6 นัดคือวันที่ 19-21 และ 25-27 ธันวาคม 2561

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า