3 ห้างค้าปลีกขายหมูราคาถูกช่วยลดค่าครองชีพ ปชช. หลังหมูหน้าเขียงราคาแพง

ก.พาณิชย์ดึง 3 ห้างค้าปลีกร่วมมือขายหมูเนื้อแดงกิโลละ 130 บาท ช่วยลดค่าครองชีพผู้บริโภค หลังเนื้อหมูราคาแพงต่อเนื่อง

วันที่ 25 ก.ค.2563 กระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหาเนื้อหมูราคาแพงหลังสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกำหนดราคาขายหมูเป็นไม่ให้เกินกิโลละ 80 บาท พร้อมดึงห้างค้าปลีกแม็คโคร เทสโก้ โลตัส และท็อปส์ ขายหมูเนื้อแดงกิโลละ 130 บาท และตลาดสดไม่เกินกิโลละ 150 บาท ส่วนการส่งออกทำได้ เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศแต่ต้องไม่กระทบผู้บริโภค

ล่าสุดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นห้างห้างแม็คโคร สาขานครอินทร์ เพื่อสำรวจราคาเนื้อหมู หลังจากที่ได้มีการหารือ 4 ฝ่าย แล้วมีความเห็นร่วมกันว่าควรจะจัดโครงการพาณิชย์ลดราคา ช่วยประชาชน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเนื้อหมูราคาถูก เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่บริโภคเนื้อหมูทั่วทั้งประเทศ โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ จะตรึงราคาหมูเป็นอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 80 บาท หรือไม่เกิน 80 บาท และจะดำเนินการให้สมาชิกของสมาคมฯ ปฏิบัติไปตามนี้ ถือว่าเป็นดำริของสมาคมฯ เพื่อที่จะไม่ทำให้ภาระค่าครองชีพของพี่น้องประชาชนสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น

ส่วนห้างโมเดิร์นเทรดมีห้างที่เข้าร่วมโครงการ 3 ห้าง ได้แก่ 1.แม็คโคร 2.เทสโก้ โลตัส และ 3.ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ได้ให้คำยืนยันว่าจะจำหน่ายหมูเนื้อแดงมาตรฐาน คือ เนื้อสะโพกกับเนื้อไหล่ ราคากก.ละไม่เกิน 130 บาท และสมาคมตลาดสด ซึ่งมีสมาชิกอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะกำชับไปยังแผงขายเนื้อหมูต่างๆ ในตลาดที่เป็นสมาชิกให้ขายหมูเนื้อแดงที่ปลายทางที่สุดไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท

ด้านกระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติทำโครงการร่วมกันในการที่จะขายหมูเนื้อแดงในราคาพิเศษ คือ กก.ละไม่เกิน 130 บาท โดยจะจัดกระจายไปทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ และได้เริ่มต้นโครงการไปแล้วใน 44 จังหวัด

สำหรับการส่งออกหมู นายจุรินทร์ บอกว่าถือเป็นโอกาสทองของไทย เพื่อทำรายได้เข้าประเทศ เพราะมีความต้องการในตลาดต่างประเทศสูงมาก เช่น จีน เวียดนาม สิงคโปร์ และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ส่งออกควรที่จะได้คืบคลานไปหาโอกาสในต่างประเทศ เพื่อส่งออกเนื้อหมู ถ้าเริ่มต้นได้ในขณะที่ตลาดต้องการ ก็อาจจะขยายตลาดเป็นการนำรายได้เข้าประเทศ แต่ในขณะเดียวกัน ในฐานะผู้บริหารประเทศ ก็ต้องดูให้เกิดความสมดุล ทั้งผู้เลี้ยงมีรายได้เพียงพอ โรงชำแหละ โรงฆ่า ทำธุรกิจก็ต้องมีกำไรตามสมควร ห้างค้าปลีกค้าส่ง เขียงหมูต่างๆ ควรจะมีรายได้มีผลกำไรที่จะทำให้อยู่ได้ ผู้ส่งออก ถ้าสามารถส่งออกนำรายได้เข้าประเทศ ก็ต้องเปิดโอกาส แต่ต้องไม่ทำให้ราคาหมูในประเทศสูงจนเป็นภาระของผู้บริโภค