Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พล.ต.ต.ไมตรี ขอโทษประชาชนดูแลลูกน้องไม่ทั่วถึง ลั่นฟันวินัยร้ายแรง พงส.เรียกรับเงินผู้เสียหายคดีเมจิกสกิน เบื้องต้นสั่งให้ออกจากราชการพร้อมตั้งกรรมการสอบสวนอย่างเร่งด่วน 

วันที่ 4 ก.ย. 2561 พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวถึงกรณีผู้เสียหายคดีเมจิกสกินกล่าวหาว่าพนักงานสอบสวนกองปราบนายหนึ่งเรียกเงินจำนวน 15,000 บาท ว่า หลังทราบเรื่องก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายคนหนึ่งได้ติดต่อมาที่พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวทางแอพพลิเคชั่นไลน์และทางโทรศัพท์โดยขอให้เร่งรัดดำเนินการสอบสวนคดีเมจิกสกิน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้บอกว่า ถ้าอยากให้คดีเดินหน้ารวดเร็วก็ต้องมีค่าใช้จ่าย จึงมีการโอนเงินให้กันตามที่มีหลักฐานปรากฏในแชทไลน์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้พยายามติดต่อผู้เสียหายแต่ติดต่อไม่ได้ จึงติดต่อไปที่เพื่อนของผู้เสียหายเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ได้รับข้อมูลว่าพนักงานสอบสวนคนนี้เรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวหาจริง

“ฐานะผู้บังคับบัญชา ขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกป้องเด็ดขาด ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานของเราพยายามทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มความสามารถที่สุด แต่กลับมีคนในองค์กรประพฤติตนเสื่อมเสียเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และถึงแม้พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวจะรับเงินจำนวนไม่เยอะ แต่ก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยขณะนี้ได้ตั้งคณะสอบวินัย คือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการมาตรา 157 และผิดวินัยร้ายแรงมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน นอกจากนี้ยังได้มีการดำเนินคดีอาญาด้วย”

พล.ต.ต.ไมตรี กล่าวว่า ตอนนี้ทราบว่านายตำรวจคนดังกล่าวติดภารกิจอยู่ต่างจังหวัดยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่จากพยานหลักฐานก็ชี้ชัดอยู่แล้ว ทั้งคลิปเสียงในโทรศัพท์รวมถึงแชทไลน์ แต่ก็จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมหาข้อเท็จจริง ซึ่งก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบแชทไลน์ตามที่ผู้เสียหายเอามาแฉว่าเป็นของ พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวหรือไม่

“ผมอยากจะขอโทษพี่น้องทุกคน การแถลงวันนี้ไม่ใช่ว่าผมจะดำเนินการกับลูกน้องเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ผมในฐานะผู้บังคับบัญชาจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ จึงอยากขอโทษที่ไม่สามารถดูแลลูกน้องทั้ง 1,200 คนได้ไม่ทั่วถึง ขอโทษผู้เสียหายที่ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ยืนยันว่าจะมีการดำเนินการเอาผิดกับพนักงานสอบสวนที่ปรากฏอยู่ในข่าวและจะทำให้โปร่งใสที่สุด อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนทั้งผู้เสียหายและ ผู้ต้องหาว่าต่อไปหากมีพนักงานสอบสวนแอบอ้างว่าสามารถช่วยเร่งรัดคดีและเรียกรับเงิน ก็อย่าไปหลงเชื่อ เพราะในทางคดีมีคณะทำงานอยู่ บุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่สามารถช่วยเหลือทางได้” ผบก.ป.กล่าว

สำหรับคดีเมจิกสกินนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แต่งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาโดยมีกองปราบเป็นหน่วยงานหลักในการทำคดี ส่วนที่เป็นปัญหามีการร้องว่าพนักงานสอบสวนเรียกรับเงินนั้นคือผลิตภัณฑ์ชื่อว่า แอปเปิ้ลสลิม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน มีผู้ต้องหา 7 รายแบ่งเป็นตัวบุคคล 5 เป็นนิติบุคคล 2 ผู้เสียหาย 111 คน หลังจากได้รวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนจึงได้สั่งฟ้องในข้อหาฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และข้อหาผลิตอาหารปลอม โดยมีการส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนั้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม อัยการก็สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติม หลายคนอาจตั้งคำถามว่าทำไมพนักงานสอบสวนถึงทำคดีล่าช้า ก็ขอชี้แจงว่าช่วงนี้ตำรวจกองปราบปรามมีงานล้นมือ แต่ก็พยายามทำอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือทางคดีให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งไม่ใช่แค่เมจิกสกินแต่รวมถึง คดีอื่นๆ ด้วยที่เราพยายามทำทุกทางภายใต้ข้อจำกัดของจำนวนคน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า