อนุทินลั่นปกป้องหมอ ถูกคนไข้ใช้ไกรแทงคอหมอ สั่งดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

วันที่ 11 ธ.ค.2562 จากกรณีคนไข้หญิงมีอาการคลุ้มคลั่งใช้กรรไกรแทงคอหมอที่กำลังออกตรวจคนไข้ ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา คุณหมอยกแฟ้มเอกสารขึ้นมาบังเอาไว้ได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ

ล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งให้โรงพยาบาลดำเนินคดีคนไข้คลั่งที่ใช้กรรไกรแทงคอหมอใน จ.ขอนแก่น ให้ถึงที่สุด เผยปกติจะเห็นแต่พวกวัยรุ่นไปตีกันในห้องฉุกเฉิน แต่ในกรณีนี้เราต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดคนทำควรถูกประณาม เพราะคนไข้ป่วยไปขอใช้บริการแต่กลับทำร้ายคุณหมอที่ให้บริการ “ผมต้องปกป้องคนของผม” พร้อมให้ปลัดสาธารณสุขเรียกประชุมทางไกลมาตรการความปลอดภัยเจ้าหน้าวันนี้

ด้านนายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ใช้กรรไกร แทงที่คอ แจ้งข้อหาพยายามฆ่าได้นะครับ คอ คือ อวัยวะสำคัญ ที่ถูกแทงแล้วถึงตายได้โดยง่าย ข่าวคุณหมอถูกคนไข้ใช้กรรไกรพยามแทงเข้าที่คอ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครแล้ว แต่เป็นเรื่องที่สังคมต้องหันมาช่วยกันแก้ไข ช่วยกันดูแล คุ้มครองคุณหมอ ที่เสียสละออกไปทำงานตามโรงพยาบาลในชนบทและที่ห่างไกล อาชีพหมอเลือกงานได้ ทำงานใช้ทุนเองได้ไม่ยาก ถ้าไม่อยากไปทำงานในต่างจังหวัดการเสียสละไปใช้ทุนในต่างจังหวัดโดยเฉพาะที่ห่างไกลเพื่อดูแลชาวบ้าน จึงเป็นเรื่องที่ควรจะยกย่องน้ำใจหมอรุ่นใหม่ ที่พร้อมทำงานเพื่อสังคมเพื่อผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล 

การรอคอย แม้จะเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดของทุกคน แต่ถ้าต้องรอด้วยเหตุผล ทุกคนรอกันได้ ผมรอลูก เรียนพิเศษ ผมรอลูกไปอ่านหนังสือ ทั้งชีวิตผมรอได้ เพราะเรารอด้วยความรักและความหวังดี เรารอเพราะลูกรักดี แล้วถ้าหมอตรวจคนไข้อยู่ ทำไมเราจะรอไม่ได้ ผมเองเคยรอคุณหมอ เกือบ 3 ชั่วโมง ผมรอได้เพราะผมเห็นทุกคนนั่งรอ คุณหมอนั่งตรวจ ผมเห็นใจคุณหมอว่างานหนัก มากกว่าจะหงุดหงิดว่ารอช้า ขณะที่เรารอคุณหมอก็ทำงานไม่ได้วางมือเลย คิดอีกด้านเถอะครับคุณหมอเหนื่อยกว่าคนนั่งรอ แล้วทำไมเราถึงจะรอกันไม่ได้ รอด้วยเหตุและผล รอเถอะครับมีสติ ขาดสติ เกิดโทสะก็เกิดคดี คนไข้ที่ก่อเหตุใช้กรรไกร ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ถ้าจิตผิดปกติ ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลคนไข้ ก็อาจต้องรับผิดด้วยทั้งทางกฏหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง ต้องชดใช้ค่าเสียหายด้วยเช่นกัน โรงพยาบาล มีทั้งสุขและทุกข์ จะร่วมแต่สุข ไม่ร่วมทุกข์ จะอยู่ในสังคมเดียวกันได้อย่างไร..??

ขณะที่นพ.วิชยุตม์ เพศยนาวิน ได้แสดงความคิดเห็นผ่านในฐานะของแพทย์ใช้ทุนจบใหม่ และในฐานะอดีตนายกสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรถูกจมหายไปกับความเงียบ แต่ควรเป็นสิ่งที่สังคมควรใช้สะท้อนและเรียนรู้ร่วมกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เหตุการณ์การทําร้ายแพทย์ (ทางร่างกาย) ที่กําลังปฏิบัติหน้าที่ ไม่ว่าจะจากใครก็ตาม ถือเป็นการกระทําที่ไม่สมควรเกิดขึ้น ปกติได้ยินแต่ในข่าว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเพื่อนของตัวเอง ผมทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนแพทย์ โดยเฉพาะแพทย์ที่มีความตั้งใจอย่างสูงที่อยากจะทํางานเพื่อชาวชนบท และอุทิศตนเพื่อผู้ขาดโอกาส จะต้องมาเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นบทบาทของแพทย์ในสังคมของเราที่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก และคงถึงเวลาที่เราต้องมองหาทางออกที่ปรับตัวให้ทันตามยุคสมัย และตามความคาดหวังจากประชาชน โดยคํานึงถึงความเป็นมนุษย์ของแพทย์ด้วยเช่นกัน

กระบวนการยุติธรรม และกระบวนการเยียวยา ผมเชื่อว่ามีอยู่ ซึ่งนี่คือการรับมือซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น แต่มันเหมาะสมกับบริบทในปัจจุบันมากน้อยแค่ไหน แล้วกระบวนการซึ่งป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างไร คงต้องขอบอกว่าเป็นกําลังใจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการผลักดันเรื่องราวเหล่านี้ และถ้าผมมีส่วนช่วยสร้างสังคมที่ผู้ป่วยและแพทย์มีกฎกติกาและความเข้าใจในลักษณะวิชาชีพของเราได้มากขึ้น ผมพร้อมจะช่วยอย่างเต็มที่ เพราะแพทย์ก็คือประชาชน เพราะหมอก็คือคน