SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลจังหวัดสมุทรปราการพิพากษาจำคุกครูและพี่เลี้ยงคนละ 3 ปี และให้ทั้งสองชดเชยค่าเสียหายเป็นเงิน 8.2 แสนบาท ในคดีทำร้ายน้องนาวาเด็กชาย อายุ 11 เดือน เสียชีวิต

วันที่ 16 ส.ค.2562 ศาลจังหวัดสมุทรปราการนัดอ่านคำพิพากษาคดีเด็กชายจตุภัทร วรศาสตร์ หรือน้องนาวาเด็กชายวัย 11 เดือน ถูกครูพี่เลี้ยงในเนอสเซอรี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังแม่นำไปฝากเลี้ยงได้เพียง 6 วัน เหตุเกิดภายในหมู่บ้านสวัสดี ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561

ศาลชั้นต้นสมุทรปราการได้พิจารณาตัดสินจำคุกนางกมลวรรณ จีนจะโปะ หรือครูอ้อ อายุ 50 ปี เจ้าของเนอสเซอรี่เถื่อน และนางอัมพร ดาวเรรัมย์ อายุ 28 ปี ครูพี่เลี้ยง คนละ 3 ปี และให้ทั้งสองคนร่วมกันชดใช้เยียวยากับทางแม่ของน้องนาวาเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ 25 เม.ย. 2561 โดยทางจำเลยทั้ง 2 คนได้เตรียมหลักทรัพย์มาประกันตัวออกไปสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์

แม่ของน้องนาว กล่าวว่า ครอบครัวต่อสู้คดีเพื่อทวงความยุติธรรมให้ลูกชายมาเป็นเวลากว่า 1 ปี 3 เดือน วันนี้ศาลตัดสินให้ทางครูอ้อ และครูพี่เลี้ยงจำคุก 3 ปี ถึงแม้จะแลกกับชีวิตของลูกชายที่เสียไปไม่ได้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงกระบวนการยุติธรรมว่าคนผิดต้องได้รับโทษ หากวิญญาณน้องรับรู้ ก็อยากให้น้องได้สบายใจ ถึงในวันนี้ทางผู้ต้องหายังไม่ได้ต้องโทษเข้าเรือนจำ และขอต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่ตนก็จะต่อสู้จนคดีจะถึงที่สุด

สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561  น.ส.วราลี เสริมจันทร์ อายุ 34 ปี  เป็นแม่ของน้องนาวา ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี พร้อมน.ส.อนงนาฎ ฟ้ากระจ่าง แม่เด็กอายุ 4 เดือนที่เคยเลี้ยงที่เนอสเซอรี่แห่งเดียวกัน แล้วถูกทำร้ายที่ศีรษะแต่เจ้าหน้าที่ของเนอสเซอรี่ชี้แจงว่าเด็กทำเอง

น.ส.วราลี เสริมจันทร์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 61 ได้รับโทรศัพท์จากพี่เลี้ยงของเนอสเซอรี่ว่า ให้รีบกลับมาหาน้องนาวา ลูกชายที่ฝากเลี้ยงไว้ เมื่อมาถึงพบว่าน้องนาวาไม่หายใจแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ และแพทย์เวรที่มาชันสูตร โดยเบื้องต้นระบุว่าน้องเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง จากที่ได้สอบถามครูพี่เลี้ยงบอกว่าน้องนาวาได้นอนแล้วมีผ้าปิดหน้าอยู่เอง จึงได้เดินทางมาขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกชายของตน และยังไม่ได้เผาศพน้อง โดยจะเก็บไว้จนกว่าคดีจะสิ้นสุด

ส่วนสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ในเบื้องต้นได้ระบุในใบรับรองการตายว่า ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว ขาดอากาศหายใจ ระบบในร่ายกายเลือดคั่ง ไม่มีอาหารในกระเพาะอาหาร และไม่มีน้ำปัสสาวะ

ส่วน น.ส.อนงนาฎ ฟ้ากระจ่าง แม่เด็กอายุ 4 เดือนที่ถูกทำร้ายที่ศีรษะ กล่าวว่า ตนเองได้นำลูกชายวัย 4 เดือนมาให้เนอสเซอรี่แห่งนี้รับเลี้ยงเมื่อ 2 ปีก่อน ทั้งนี้เคยเกิดเหตุการณ์ที่ลูกชายของตนมีรอยซ้ำที่ศีรษะ เมื่อสอบถามไปยังครูพี่เลี้ยงก็ทราบว่าเด็กคลานไปล้มถูกซ้อนซ่อมที่เป็นพลาสติก จนศีรษะเป็นแผลช้ำและมีเลือดออกเล็กน้อย ซึ่งตนเองก็ไม่เชื่อแต่ก็เก็บหลักฐานนั้นไว้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้มอบให้กับ ผกก.สภ.บางปู เพื่อนำไปพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

ด้าน พ.ต.อ.ประวิทย์ บุญธรรม ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ ได้พิจารณาแล้ว เบื้องต้นทางพนังงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของเนอสเซอรี่และพี่เลี้ยงแล้วในข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเปิดสถานเลี้ยงเด็กโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากพบว่าผลการชันสูตรจากนิติเวชออกมาระบุว่า การเสียชีวิตเกิดจากการกระทำให้ตายนั้น ก็จะแจ้งข้อหาพี่เลี้ยงและเจ้าของเนอสเซอรี่ ในข้อหาอื่นต่อไป

ทางด้าน นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ในประเทศไทยได้มีสถานรับเลี้ยงเด็กที่เปิดอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งได้ประสานไปยังกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ตรวจสอบ ซึ่งสถานรับเลี้ยงเด็กเหล่านี้ต้องมีครูพี่เลี้ยงที่มีความรู้และรักเด็ก มีกล้องวงจรปิดที่ผู้ปกครองสามารถดูความเป็นอยู่ของเด็กๆ ได้ตลอดเวลา ในส่วนของคดีน้องนาวาได้มอบให้ ผกก.สภ.บางปู ดำเนินการตรวจสอบหาหลักฐานและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

– ไม่เผาศพลูกจนกว่าคดีสิ้นสุด ร้องปวีณาช่วย เนอสเซรี่ทำลูกตาย

– “เนอสเซอรีผิดกฎหมาย” ภัยคุกคามเด็ก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า