13 กฎในการเป็นผู้นำคน จาก ‘โคลิน พาวเวลล์’ อดีตทหารอเมริกันและรมว. ต่างประเทศสหรัฐฯ

ในห้วงยามแห่งวิกฤต วิธีคิดของ ‘ผู้นำ’ คือสิ่งสำคัญที่ทำจะให้สถานการณ์ดีขึ้น

เรียนรู้การเป็นผู้นำคนจาก ‘โคลิน พาวเวลล์’ เขาคืออดีตทหารที่เคยไปร่วมรบในสงครามเวียดนาม เคยก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงสุดคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และถือเป็นนักการเมืองคนสำคัญของพรรครีพับลิกัน

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐ เคยกล่าวไว้ว่า โคลิน พาวเวลล์ “เป็นทั้งนักรบและนักการทูตในอุดมคติขั้นสูงสุด” (highest ideals of both warrior and diplomat)

อย่างไรก็ตาม โคลิน พาวเวลล์ เคยเขียน 13 กฎในการเป็นผู้นำคนเอาไว้ในหนังสือ It Worked for Me: In Life and Leadership โดยเขาบอกว่า เขานำเอากฎเหล่านี้มาปรับใช้กับชีวิตส่วนตัว ชีวิตการทำงาน การเป็นผู้นำของเขา และมันได้ผล

TODAY Bizview สรุปมาให้อ่านกันแบบเข้าใจง่ายในบทความนี้

1) ทุกสิ่งอย่างไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น พรุ่งนี้มันจะดีขึ้น: จะนำคนได้ ต้องเริ่มต้นด้วยทัศนคติที่ดี บางครั้งสิ่งที่เจออยู่มันอาจจะยาก แต่บางเรื่องมันต้องใช้เวลา และที่สำคัญคนเป็นผู้นำต้องอย่าจบแต่ละวันด้วยพลังงานด้านลบ เพราะสิ่งนี้จะส่งผลไปถึงลูกทีม

2) โกรธได้ แต่ต้องหายไว และทำให้มันเป็นประโยชน์: ผู้นำก็เป็นคนคนหนึ่ง และความโกรธก็เป็นอารมณ์ชนิดหนึ่งของมนุษย์ ผู้นำโกรธได้ แต่ต้องอย่าอยู่กับสภาวะความโกรธนานๆ ต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ 

จากประสบการณ์ตรงของพาวเวลล์ เขาบอกว่า การเป็นผู้นำที่ขี้โกรธ มันไม่ได้เป็นประโยชน์กับใครเลย แต่กลับกัน ถ้าใช้ความโกรธนั้นให้เป็นประโยชน์ได้ ทั้งกับตัวเรา และคนรอบข้าง นั่นคือที่สุดของผู้นำ

3) อย่าให้อีโก้ขึ้นสูงตามตำแหน่ง: อย่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ผู้นำที่ดีต้องมีอีโก้ให้น้อยที่สุด เพราะวันหนึ่งคุณจะหมดอำนาจ พ้นจากตำแหน่ง จงระลึกไว้เสมอว่าตำแหน่งเป็นเพียงเส้นทาง ไม่ใช่จุดหมาย เพราะถึงที่สุด คนจะเป็นผู้นำที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งก็ได้

4) ท่องไว้เสมอว่าทำได้: จะนำคนได้ ต้องกระตือรือล้นที่จะทำงานให้สำเร็จ ไม่กลัวไปก่อนว่าจะทำไม่ได้ มองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพราะผู้นำคือคนที่คอยคิดค้นหาหนทาง เพื่อให้งานสำเร็จได้เสมอ

5) เลือกให้ดี: ระวังให้ดีเมื่อต้องตัดสินใจหรือเลือกอะไรสักอย่าง เพราะสิ่งนั้นอาจจะอยู่กับคุณไปตลอดกาล ตำแหน่งผู้นำมีหน้าที่ต้องคัดสรรสิ่งต่างๆ อยู่แล้ว ดังนั้นอย่าใจร้อน คิดให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องคน 

6) ผู้นำต้องเชื่อมั่นในสัญชาตญาน: ผู้นำที่ดีในสายตาของพาวเวลล์คือคนที่ต้องเชื่อในสัญชาตชาณตัวเองอย่างสุดขีด อย่าให้อะไรมาทำให้ไขว้เขว ผู้นำที่ยิ่งใหญ่หลายคนในประวัติศาสตร์ เมื่อต้องตัดสินใจในช่วงเวลานั้น หลายครั้งก็หนีไม่พ้นที่การตัดสินใจส่งผลต่อความสัมพันธ์ หรือมีคนจำนวนมากที่ไม่นิยมชมชอบ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ ผู้นำระดับโลกอย่างมาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์ หรืออับราฮัม ลินคอล์น ที่ในยุคสมัยของพวกเขา มีคนจำนวนมากที่จงเกลียดจงชัง แต่ต่อมา กาลเวลาก็พิสูจน์ว่า พวกเขาตัดสินใจอย่างถูกต้อง

7) จำไว้ว่าคุณต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่าให้ใครมาตัดสินใจแทนคุณ: ผู้นำต้องมองสถานการณ์ด้วยสายตาที่ครอบคลุม รับฟังข้อมูลรอบด้าน และกล้าที่จะตัดสินใจโดยปราศจากความกดดัน ถ้าผิดก็ผิดด้วยตัวเอง ไม่ต้องโทษใคร ให้เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น

8 ) อย่าลืมมองรายละเอียดเล็กๆ: ผู้นำโดยทั่วไปมักจะคิดถึงแต่ภาพใหญ่ แต่พาวเวลล์บอกว่า ผู้นำที่ดีต้องอย่าลืมมองเข้าไปในรายละเอียด ใส่ใจในสิ่งเล็กๆ ด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เองที่สำคัญ และทำให้หลายสิ่งเดินหน้าต่อไปได้

9) แบ่งความดีความชอบให้คนอื่นด้วย: อย่าเป็นผู้นำชนิดที่เก็บแสงสปอร์ตไลท์ไว้ที่ตัวเองคนเดียว จำไว้เสมอว่าความสำเร็จที่ได้มาไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากผู้นำเพียงคนเดียว มีคนในทีมอีกจำนวนมากที่มีส่วนในการสร้างความสำเร็จนี้ 

ผู้นำต้องรู้ว่า ถึงที่สุดแล้ว ผู้คนต้องการการยอมรับ เพราะฉะนั้นผู้นำต้องมอบเครดิตให้พวกเขาด้วย ทำให้เขารู้สึกมีคุณค่าในสิ่งที่ทำ พาวเวลล์เขียนเปรียบเปรยไว้อย่างเห็นภาพว่า ผู้คนต้องการสิ่งนี้ไม่ได้ต่างไปจากความต้องการน้ำและอาหารในชีวิต

10) ‘ใจเย็น’ และ ‘ใจดี’ คือคุณสมบัติที่ผู้นำควรมี: คุณจะเป็นผู้นำที่เก่งแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องปฏิบัติกับคนอื่นอย่างดีเสมอ เพราะในเวลาที่ต้องเผชิญความยากลำบาก คนในทีมไม่ได้อยากทุ่มสุดตัวเพื่อทำงานให้กับผู้นำที่ใจร้อนและนิสัยไม่ดี อันที่จริงแล้ว ผู้คนพร้อมจะสู้สุดใจไปกับผู้นำที่รู้จักความใจเย็นและเป็นคนนิสัยดี

11) มีวิสัยทัศน์ รู้ว่าจะเดินไปทางไหน: ผู้นำที่ดีต้องมีวิสัยทัศน์ รู้ว่ากำลังทำอะไร บอกทีมให้ชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ อะไรคือสิ่งที่ต้องการ อะไรคือเป้าหมาย อธิบายที่มาที่ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนที่ผู้นำจะร้องขอให้คนอื่นทำอะไรให้ ก็ควรบอกเหตุผลเขาให้ชัดเจน 

12) อย่าให้ความกลัวส่งผลต่อการตัดสินใจ: หลายครั้งในการตัดสินใจ ผู้นำต้องเผชิญความกลัว แต่ผู้นำต้องเรียนรู้และเข้าใจในความกลัวนั้นๆ ของตัวเองให้ได้ บางครั้งอาจมีเสียงจากคำเตือนของนักวิจารณ์ พาวเวลล์บอกว่า หลายครั้งนักวิจารณ์ก็พูดถูก ผู้นำควรที่จะรับฟังไว้ แต่ที่สุดแล้ว การตัดสินใจของผู้นำต้องทำด้วยสัญชาตญาณที่ไร้ความกลัวต่อเสียงใดๆ แม้แต่ความกลัวในใจของตัวเอง

13) มองโลกแง่ดีไว้เสมอ แม้จะล้มเหลว: ความเชื่อมั่นในตัวเองเป็นสิ่งที่แพร่กระจายต่อได้ พาวเวลล์บอกว่า ถ้าผู้นำมุ่งมั่นทำงานและเชื่อมั่นว่า สิ่งที่ทำจะสำเร็จได้ คนรอบข้างก็จะเชื่อมั่นในสิ่งนี้ด้วย และนี่เองที่คือพลังของทีมที่เพิ่มขึ้นอย่างเท่าทวีคูณ

*ร่วมไว้อาลัย พลเอก โคลิน พาวเวลล์ เสียชีวิตด้วยอายุ 84 ปี เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา

อ้างอิงข้อมูล – Amazon Book, ShareAmerica, Management is a Journey, CNBC, INC, BBC