Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผย การตรวจสอบผู้ติดเชื้อโควิด 2 รายล่าสุด เป็นคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจอเป็นซากเชื้อ 1 ราย อีกรายอยู่ระหว่างตรวจสอบ ยันโอกาสเป็นการระบาดในประเทศรอบสองน้อยมาก เพราะทางข้อมูลระบาดวิทยาไม่เจอเชื้อกว่า 80 วันแล้ว

วันที่ 19 ส.ค. 2563 เวลา19.30 น. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 หรือ ศบค.) ร่วมแถลงข่าว โดย นพ.สุวรรณชัย ให้ข้อมูลการตรวจพบผู้ที่เคยอยู่ในสถานที่กักกันโรค (State quarantine) ครบ 14 วัน ตรวจพบสารพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19

รายแรก เป็นเพศหญิง อายุ 34 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางกลับมาไทยเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ไม่มีอาการ เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนด 2 สัปดาห์ ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย. ตรวจพบสารพันธุกรรมปริมาณน้อย สรุปผลการตรวจหาเชื้อกำกวม (Inconclusive result) และตรวจครั้งที 2 วันที่ 13 มิ.ย. ผลไม่พบเชื้อ เมื่อกักกันครบ 2 สัปดาห์ ได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา จังหวัดชัยภูมิ และพักแยกตัวจนครบ 30 วัน ต่อมาในวันที่ 17 ส.ค. เตรียมตัวเดินทางต่างประเทศ จึงได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่ รพ.รามาธิบดี ผลการตรวจวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ในปริมาณน้อย และเจาะเลือดตรวจพบภูมิคุ้มกัน ขณะนี้แพทย์รับไว้ดูแลในโรงพยาบาล จึงสรุปว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายเดิมที่พบซากเชื้อและเคยอยู่ในสถานที่กักกันจนครบกำหนดแล้ว

ส่วนในรายที่ 2 เป็นเพศหญิง อายุ 35 ปี เคยทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เดินทางกลับไทยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เข้ากักตัวที่สถานกักกันที่ราชการกำหนดนาน 2 สัปดาห์ ทำการตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ จึงได้รับอนุญาตเดินทางกลับภูมิลำเนา จังหวัดเลย จากนั้นวันที่ 16 ส.ค. เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และในวันที่ 18 ส.ค. ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบสารพันธุกรรม ขณะนี้ ทางรพ.รามาธิบดี ได้ติดตามนำตัวมาไว้ดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว

ทั้งนี้จากข้อมูลทางระบาดวิทยา คาดว่า มีโอกาสที่จะเป็นการติดเชื้อในประเทศได้น้อยมาก อย่างไรก็ตามต้องทำการตรวจสอบโดยกระบวนการเดียวกับรายแรก เมื่อได้ผลเป็นอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เคสที่พบล่าสุดใช่หรือไม่การระบาดรอบสองในไทย นพ.สุวรรณชัย ตอบโดยสรุปว่า กรณีของหญิงอายุ 34 ปี ผลแล็บตรวจพบสารพันธุกรรมในระดับน้อยคล้ายกับช่วงที่อยู่ใน State quarantine และมีการตรวจพบภูมิคุ้มกันขึ้น จากหารือของผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า รายนี้เป็นการติดเชื้อตั้งแต่ครั้งแรกไม่ใช่การติดเชื้อใหม่และไม่มีความเสี่ยงต่อการไปแพร่โรคต่อผู้คนอื่นซึ่งเป็นกรณีที่เคยพบหลายครั้งที่ผู้ป่วยได้กลับบ้านแล้วยังพบสารพันธุกรรมเป็นเวลาหลายเดือน ถ้าพูดภาษาชาวบ้านเหมือนซากเชื้อไม่สามารถไปแพร่โรคได้ ยืนยันว่ารายนี้เป็นผู้ติดเชื้อรายเดิมที่เคยอยู่ใน State quarantine แล้วและครั้งนี้เป็นการตรวจพบซากเชื้อ

ส่วนรายที่สองลักษณะคล้ายกัน แต่เนื่องจากเพิ่งมาตรวจที่โรงพยาบาลในวันที่ 18 ส.ค. และโรงพยาบาลรามาธิบดีเพิ่งรับเข้ามา จากนี้จึงต้องทำการตรวจสอบข้อมูลย้อนไปในช่วงที่อยู่ State quarantine ผลการตรวจแล็บ ข้อมูลทางระบาดวิทยาแล้วจะมาสรุปอีกครั้ง ดังนั้นที่ถามว่าระบาดรอบที่สองหรือไม่จึงไม่ใช่ เป็นการตรวจสอบบุคคลที่มารับการตรวจสอบสุขภาพแต่บังเอิญเป็นคนที่เคยอยู่ใน State quarantine

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ทำไมถึงสันนิษฐานว่ากรณีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้มีโอกาสน้อยมากที่จะเป็นการระบาดในประเทศ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลทางระบาดวิทยาเราไม่มีรายงานในส่วนของผู้ติดเชื้อในประเทศมาเป็นเวลา 80 กว่าวัน มีการตรวจเชิงรุกทั้งในชุมชนและในเหตุการณ์ต่างๆ เช่น จ.ระยอง, กทม. ผลทั้งหมดเป็นลบ และผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่คือผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักกัน โดยการตรวจเกือบ 70,000 ราย พบผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณ 400 กว่าราย หมายความว่าโอกาสในการติดเชื้อในประเทศจึงน้อย แต่อย่างไรก็ตามจึงกำหนดว่าต้องตรวจสอบและทำการสอบสวนโรค รวมทั้งตรวจภูมิคุ้มกันและตรวจอื่นๆ เพื่อยืนยันอีกครั้ง

ผู้สื่อถามถึงความจำเป็นที่ต้องแจ้งให้ประชาชนที่อยู่ในภูมิลำเนาหรือเคยไปในสถานที่เดียวกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 หรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากข้อมูลและประสบการณ์ที่ผ่านมา เมือ่ประเมินความเสี่ยงทางระบาดวิทยา ยังถึงกับมีความจำเป็นในระดับนั้น อย่างไรก็ตามประชาชนการ์ดอย่าตก โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากต่อให้มีคนเป็นยังต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์

ผอ.รพ.รามาธิบดี

ด้าน นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ชี้แจงข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ในสื่อโซเชียลว่า ทางโรงพยาบาลประสานงานกับกรมควบคุมโรคตลอด ดังนั้นจึงไม่ตอบข่าวหลายๆ อย่าง เพราะต้องการความชัดเจน และลดความตระหนกของประชาชน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า