Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พรรณิการ์ วานิช อดีตส.ส.อนาคตใหม่ อภิปรายนอกสภา ระบุรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เกี่ยวข้องกับคดี 1MDB

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศูนย์ประสานงานอนาคตใหม่ ฝั่งธนฯ พรรณิการ์ วานิช อดีตส.ส.อนาคตใหม่ อภิปรายฯนอกสภา ตั้งข้อสงสัยถึงความเกี่ยวข้องของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จัทนร์โอชา ต่อคดีอาชญากรรมทางการเงิน 1MBD ซึ่งมีการสอบสวนในหลายประเทศทั่วโลก

พรรณิการ์ ตั้งคำถาม ใน 2 กรณีด้วยกัน คือ
1.ความผิดปกติในการจับกุมและคุมขังนายชาเบีย ฆุสโต (Xavier Justo) ซึ่งเป็นผู้ถือหลักฐานสำคัญของการทุจริต1MBD และ 2.การให้ที่พักพิงต่อผู้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมแม้มีหมายแดงจาก Interpol


[1]

ชาเบีย ฆุสโตหนึ่งในผู้บริหารบริษัทเปโตร ซาอูดี้ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินลงทุนของ 1MBD และมอบข้อมูลการลงทุนให้แก่นักข่าว ถูกตำรวจบุกจับที่บ้านพักในประเทศไทยเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558 ข้อหากรรโชคทรัพย์

พรรณิการ์ตั้งข้อสังเกต “ความไม่ผิดปกติ” หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการที่ตำรวจไทยเปิดเผยว่ามีตำรวจจากอังกฤษเข้าร่วมการสอบสวนครั้งนี้ด้วย ขณะที่สำนักข่าว The Guardian ชี้ว่าบุคคลที่ทางการไทยอ้างว่าเป็นตำรวจจากอังกฤษไม่ใช่ตำรวจอังกฤษจากสก๊อตแลนด์ยาร์ดอย่างที่ตำรวจไทยอ้างแต่เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านความมั่นคงจากบริษัทAatkinsthomsonที่ถูกว่าจ้างโดยบริษัท เปโตร ซาอุดี ทึ่ต้องการจะปิดปากพยาน ไม่ให้ข้อมูลการทุจริตของบริษัทรั่วไหล เมื่อตรวจสอบรายชื่อผู้เข้าเยี่ยมในเรือนจำคลองเปรมก็พบว่าไม่มีรายชื่อของ “ตำรวจปลอม” ทั้งที่นายชาเบียบอกว่ามีการเข้าเยี่ยมหลายครั้ง โดยมีแชทแอพลิเคชัน Whatsapp ของลอรา ฆุสโต ภรรยาที่พูดคุยกับเจ้าของบบริษัทเปโตร ซาอุดี และบทสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างงลอรา ฆุสโต และ พ.ต.อ.พงษ์สไว แช่มลำเจียก เจ้าของคดีผู้ที่จับกุมและดำเนินคดีชาบี ฆุสโตเป็นหลักฐาน

พรรณิการ์ยืนยันว่าลอราบอกกับตนว่า FBI พยายามขอเรือนจำคลองเปรมเข้าไปสอบสวนชาเบีย 3 ครั้ง ได้รับการปฏิเสธทั้งหมด3 ครั้ง สุดท้าย FBI ขึงบอกให้ลอราเขียนจดหมายจากสวิสเซอร์แลนด์ตอบโต้กับชาเบียเพื่อให้FBI สามารถตรวจสอบคดีนี้ได้ต่อไ

นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่าเมื่อมีการพิพากษาให้จำคุก 3 ปีแล้ว เหตุใดจึงไม่ส่งตัวนักโทษข้ามแดนทันทีเมื่อสถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ร้องขอ แต่มีการเลื่อนจนเหลือเวลารับโทษต่ำกว่า 1 ปี ทำให้ กระทรวงยุติธรรมอ้างระเบียบว่าถ้าเหลือโทษน้อยกว่า 1 ปี ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไม่ได้

“คำพิพากษาออกมาก่อนหน้านั้น รัฐบาลไทยทำอะไรอยู่ ทำไมสัญญาล่ม ”

หลังพ้นโทษชาเบียถูกเนรเทศตั้งแต่ปี 2016-2116 รวมเวลา 100 ปี ทั้งที่ต้องคำพิพากษาในคดีกรรโชคทรัพย์ ผิดจากชาวต่างชาติที่ต้องคำพิพากษาคดีร้ายแรงอื่น ๆ ที่มักจะถูกแบล็กลิสต์เพียง 5-50 ปี

[2]

พรรณิการ์ยังกล่าวว่า รัฐบาลไทยปล่อยให้โจโลกบดานในปท.ไทยทั้งที่มีหมายแดงจากตำรวจสากลที่ออกมาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2016 จากรัฐบาลสิงคโปร์ ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศภาคีมีหน้าที่แจ้งเบาะแสติดตามตัวเพื่อให้นำกลับไปดำเนินคดีในประเทศที่ขอหมายได้

อย่างไรก็ดีช่วงระยะเวลา 7 ตุลาคม 2016 – 13 พค 2561 โจโลเข้าไทย 5 ครั้ง โดยมีข้อมูลชัดเจนในระบบตรวจคนเข้าเมืองว่าเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว “หน้าจอของตม.ย่อมต้องขึ้นว่าเป็นบุคคลที่ต้องการโดยตำรวจสากล”

“รัฐบาลสามารถปฏิเสธไม่ให้โจโลเข้าเมืองได้ ก็จะไม่บาดหมางกับทั้งสิงคโปร์และมาเลเซีย ”
แต่พรรณิการ์กล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเราไม่มีหลักฐานใด ๆ ปรากฎเลยว่าไทยได้ขัดขวางการเข้าเมืองของโจโล ไม่มีหลักฐานใด ๆ บอกเลยว่ารัฐบาลไทยแจ้งให้สิงคโปร์ทราบในเรื่องนี้ั

พรรณิการ์กล่าวว่าอีกหลักฐานสำคัญที่ทำให้โจโลมั่นใจว่า “พันธมิตรมืด” คุ้มครองเขาได้คือหลังจาก 10 พ.ค. 2018 แนวร่วมฝ่ายค้านพลิกชนะรบ.มาเลเซีย มหาเธร์ประกาศว่าภารกิจแรกของรบ.มาเลเซียชุดใหม่คือเอาเงินมาคืนชาวมาเลทุกบาททุกสตางค์ ตำรวจนำกำลังเข้าค้นอพาทเมนต์ของนาจิบ ราซัค ขณะนั้นโจโลกบอฃดานอยู่ในจังหวัดภูเก็ต แต่ 13 พ.ค. เขาตัดสินใจเดินทางพร้อมพวกอีก 5 คนออกจากประเทศไทย และไม่เคยกลับมาอีกเลยในชื่อของโจโล “ไม่สบายใจเหมือน 5 ครั้งที่ผ่านมา”

“โจโลไปแล้วจากประเทศไทย แต่เครือข่ายยังใช้ไทยกบดาน”

ตังเคงฉี เครือข่ายของโจโล มีหมายแดงออกวันที่ 7 ธันวาคม 2561 พรรณิการ์กล่าว่าเขาอยู่ไทยจนวีซ่าขาดจึงไปขอต่อวีซ่า ตม.พบว่าเขาวีซ่าขาดและอยู่ในรายชื่อผู้เฝ้าระวัง แต่ก็ต่อวีซ่าให้อยู่ 14 วันจนหายไป “ไม่ไม่หลักฐานว่าออกไปเหมื่อไหร่ มีหลักฐานว่ากบดานอยู่ในบ้านบุคคลในเครื่องแบบ มีรายงานข่าวว่าเพิ่งออกไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา”

ขณะที่เครือข่ายอีกคนของโจโลชื่อ ลูไอชวอน หรือจัสมินลู พรรณิการ์กล่าวว่ามีบันทึกเดินทางออกจากประเทศไทย 7 กันยายน 2018 ซึ่งขณะที่ออกไปนั้นยังไม่ถูกขึ้นบัญชีหมายแดงจากตำรวจสากล แต่ได้จัสมินลูถูกขึนบัญชีเฝ้าระวังจาก “บุคคลระดับรองผบตร.แห่งชาติ” ซึ่งจแจ้งว่าถ้าเจอให้ตม.แจ้ง แต่พรรณิการ์กล่าวว่าจัสมิน ลูเดินทางออกจากปท.โดยที่ตม.ไม่ได้แจ้ง

นอกจากนี้เมื่อตรวจสอบก็พบว่าบันทึกเข้าออกประเทศไทยของจัสมิน ลู จากที่มีถึง 36 รายการ แต่เมื่อตรวจสอบอีกรอบในเดือนมกราคม 2563 ข้อมูลจากฐานข้อมูลตม.เหลือเพียง 14 รายการ หายไป 24 รายการ

“จัสมิน ลูออกจากประเทศไทยก่อนมีหมายแดง ตันเคงฉีก็ออกจากประเทศก่อนมีหมายแดง พวกเขารู้หรือเปล่า”

ประเด็นสุดท้าย พรรณิการ์เผยว่า เครือข่ายของโจโลทั้งสองได้รับความช่วยเหลือจาก “นายพ.” ซึ่งเป็นนักธุรกิจไทยที่โดนสหรัฐสอบสวนว่า “อาจเป็นกระเป๋าเงินให้โจโล” พรรฺการ์กล่าวว่าตำรวจไทยมีข้อมูลทั้งหมด ว่า นายพ.ใช้บัตรเครดิตของตัวเองจองที่พักให้โจโลในไทย คนขับรถและพนักงานบริษัทของนายพ.อำนวยความสะดวกให้จัสมินลูและตันเคงฉี นายพ.เป็นเจ้าของบริษัทคู่สัญญาระบบสารสนเทศให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างน้อย 1คู่สัญญา
พรรณิการ์จึงตั้งคำถามว่าตำรวจไทยมีข้อมูลหมดนี้แต่เหตุใดประเทศไทยไม่ได้เปิดการสอบสวนเหมือนอีก 10 ประเทศ

“ตั้งแต่ปี 2558 – ต้นปี 2563 ที่ข้อมูลของจัสมิน ลูถูกลบ เปลี่ยนผู้บังคับการตม.ไปแล้วกี่คน เปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไปแล้วกี่คน เปลี่ยนผู้บัญชาการเรือนจำคลองเปรมไปแล้วกี่คน เปลี่ยนรัฐมนตรีมหาดไทย ยุติธรรม  บุคคลที่ไม่เปลี่ยน บุคคลที่ยังอยู่เสมอ และบุคคลที่มีอำนาจสั่งการข้ามถึงหลายกระทรวงตั้งแต่ต่างประเทศ ยุติธรรม มหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นใครคะ ถ้าไม่ใช่คุณ”

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า