2 พระ แอบกินเหล้า มีปากเสียง กระทืบอีกฝ่ายมรณภาพ

รวบคาผ้าเหลือง พระภิกษุก่อเหตุฆาตกรรมพระอีกรูป ขณะเเอบดื่มสุรา ก่อนนำไปให้เจ้าอาวาสสึก นำตัวไปดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.00  น.วันที่ 14 เม.ย. 62 พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า พ.ต.ท.อัฐพงศ์ นิธิพัฒนะ รอง ผกก.สส.สภ.คลองหล้า พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ อ่อนสง สว.สส.สภ.คลองห้า พร้อมชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมตัว พระภิกษุสาคร บุญโน่น อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303 ม.3  ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ตามหมายศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 187/2562 ลงวันที่ 13 เม.ย. 62 ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

ด้าน พ.ต.อ.ทูน เดชคุณมาก ผกก.สภ.คลองห้า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.62 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งจากแพทย์โรงพยาบาลคลองหลวง ว่ามีพระภิกษุสนั่น ทั่งทอง อายุ 63 ปี ถูกทำร้ายร่างกายและต่อมาได้มรณภาพ ที่โรงพยาบาลคลองหลวง ซึ่งพระภิกษุสนั่นได้มาเข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 62 เวลาประมาณ 05.00 น.

ทางด้าน พ.ต.ท.สุนทร รัตนาพร สารวัตรสอบสวน สภ.คลองห้า จึงได้ส่งตัวไปผ่าชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ปรากฏว่ามีเลือดออกในช่องท้องผู้ตาย และมีเลือดออกในตับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าพระที่มรณภาพนั้นพักอาศัยอยู่ที่ สำนักสงฆ์บุญเจริญธรรม หมู่ 5 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จากการสอบปากคำพระภิกษุที่จำพรรษาอยู่ในวัด จึงทราบว่าพระที่มรณภาพได้มีเรื่องชกต่อยกับพระภิกษุสาคร บุญโนน อายุ 46 ปี สาเหตุเนื่องจากผู้ก่อเหตุ และคนตายได้แอบกินเหล้าในวัด และขณะกินเหล้าได้มีปากเสียงกัน พระภิกษุสาคร จึงได้เข้าชกต่อย และกระทืบที่หน้าท้องผู้ตายไปจำนวนหลายครั้ง และหลังเกิดเหตุพระภิกษุสาคร  ได้หลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และร้อยเวรเจ้าของคดี จึงรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำประจักษ์พยาน และออกหมายจับพระภิกษุสาคร ก่อนสามารถจับกุมตัวได้ที่วัดบางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และได้ให้เจ้าอาวาสวัดทำการสึกเพื่อนำตัวมาดำเนินคดี

ด้านพระภิกษุสาคร บุญโน่น ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุทำร้ายร่างกายพระภิกษุสนั่น จนถึงแก่ความตายจริง สาเหตุเนื่องจากแอบกินเหล้าในวัดกัน ต่อมาได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับผู้ตาย จึงได้เข้าไปชกต่อย และใช้เท้ากระทืบหน้าท้องผู้ตายจำนวนหลายครั้งจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป