Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อชี้แจง “แนวคิดและแนวทางการขับเคลื่อนแผนงานพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา” ปีงบประมาณ 2563 โดยมีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ภาคีเครือข่ายเข้าร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนจำนวน 66 เครือข่ายทั่วประเทศ

นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) กล่าวว่า กสศ.ได้สนับสนุนโครงการพัฒนาครูและเด็กนอกระบบการศึกษา ให้แก่ 66 องค์กรภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ครอบคลุมพื้นที่74จังหวัด พัฒนากลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาที่ฐานะยากจนขาดแคลนทุนทรัพย์ เข้าไม่ถึงการศึกษา ตั้งแต่อายุ 2-25 ปี กว่า35,000 คน โดยกสศ.สนับสนุนค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาทั้งแบบในห้องเรียนและนอกห้องเรียน หรือการพัฒนาทักษะอาชีพตามความต้องการและศักยภาพของเด็ก โดยมีองค์กรหรือภาคีเครือข่ายเป็น“ครูพี่เลี้ยง”ซึ่งกสศ.สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายครูนอกระบบกว่า3,700คนอีกด้วย

“ครูพี่เลี้ยง จะเป็นเหมือนฟันเฟืองในการทำงาน ประสานส่งต่อเด็กนอกระบบให้กับกสศ.เพื่อจัดลำดับความสำคัญเร่งด่วน แบ่งประเภทและจัดทำรูปแบบการศึกษา ตามความเหมาะสม และกสศ.จะติดตามและประเมินผลต่อไปเพื่อไม่ให้เด็กหลุดออกนอกระบบซ้ำอีก” นายสุภกร กล่าว

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารกสศ. และประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการฯ กล่าวว่า การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำไม่ใช่แค่ทำงานกับเด็กและครู แต่ต้องมีผู้ปกครอง ชุมชนในระดับหมู่บ้าน และโครงการนี้จะสนับสนุนให้เกิดกลไกการทำงาน การวิเคราะห์เด็กนอกระบบแบบเจาะลึกในทุกมิติ ทั้งด้านเพศ อายุ ภูมิหลังของครอบครัว สภาพแวดล้อม และชุมชน การดำเนินงานในช่วงแรกจะเน้นแก้ปัญหาให้ได้ พร้อมคำนึงถึงการป้องกันปัญหาควบคู่กันไป และสร้างการป้องกันเด็กที่จะหลุดจากระบบการศึกษา เพราะเรารู้ว่าเด็กคนไหนมีความเสี่ยงสูง

“เราสนับสนุนให้เกิดการเฝ้าระวังที่มีการประสานระหว่างผู้ปกครอง ครู และโรงเรียน หากเกิดกลไกลักษณะนี้ จะทำให้เรื่องนี้ง่ายและไม่ซับซ้อนเท่าการปล่อยให้เด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาแล้วไม่สามารถดึงกลับเข้ามาได้อีก”ดร.กฤษณพงศ์ กล่าว

ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร กสศ.และรองประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการพัฒนาครูฯ กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษาของไทยถูกเลี้ยงไข้มากว่า20 กว่าปี ส่งผลให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของไทยสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีเด็กยากจนด้อยโอกาสมากกว่า 3.7 ล้านคน ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ครูที่อยู่นอกระบบไม่มีสวัสดิการ ไม่มีความมั่นคงในวิชาชีพ ไม่มีอนาคต ไม่ได้รับการยอมรับ จนอยู่ในสภาพซึมเศร้าในวิชาชีพ โครงการนี้จึงเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตครูนอกระบบให้ดีขึ้น มีสวัสดิการ มีความมั่นคง ทั้งนี้การขับเคลื่อนเชิงระบบต้องค่อยๆทำ ซึ่งการสนับสนุนงบประมาณครั้งนี้จะช่วยคลี่คลายปัญหาด้านการศึกษาเด็กนอกระบบของประเทศได้ โดยการให้ครูนอกระบบบอกเราว่า เครื่องมือที่ใช้คืออะไร ลงพื้นที่ยังไง แล้วเราจะทำงานตรงนี้ให้เป็นชุดนวัตกรรม ชุดความรู้ แล้วให้เครดิตกับครูทุกคน ไม่เช่นนั้นวิธีการดีๆ ที่คิดค้นขึ้นมาจะหายไป หรืออยู่กับที่ ไม่ได้ถูกยกขึ้นมาทำให้เป็นความรู้ และเป็นตัวปรับเปลี่ยนนโยบายได้ ต่อไปนี้ กสศ.จะทำให้เป็นระบบทั้งเรื่องชุดความรู้ เพื่อขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้ กสศ.จะเป็นเจ้าภาพตรงนี้ มีกองทุน มีเด็กนอกระบบ ครูนอกระบบกลุ่มนี้เป็นเป้าหมาย และภารกิจที่ กสศ.ต้องทำ การมีเจ้าภาพที่มีตัวตนชัดเจนเข้ามาทำงานเพื่อเด็กนอกระบบ เด็กยากจนพิเศษ และครู จะทำให้เกิดการปฏิรูปการศึกษาที่ยั่งยืน

นางสาวเนตรดาว ยั่งยุบล ผู้ประสานงานเครือข่ายการทำงานเด็กนอกระบบการศึกษา41เครือข่าย กล่าวว่า การทำงานในแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน เช่น พื้นที่ภาคเหนือจะเป็นกลุ่มเด็กพิเศษที่บกพร่องทางพัฒนาการ กลุ่มเด็กชาติพันธุ์ กลุ่มเด็กแรงงานข้ามชาติ เยาวชนที่หลุดออกนอกระบบการศึกษา รวมถึงกลุ่มเด็กเปราะบาง มีสัดส่วนอายุ 2-21ปี ส่วนกลุ่มหนาแน่นจะอยู่ในช่วงอายุ13-25 ปี โดยแต่ละจังหวัดจะมีอาสาสมัครประจำกลุ่มตามประเภทของเด็กที่มีปัญหา มีคณะทำงานคอยกลั่นกรอง รวมถึงกำหนดกิจกรรมช่วยเหลือเด็ก ซึ่งกลไกดังกล่าวจัดตั้งจากฐานของคนพื้นที่หรือที่เรียกว่า “ครูนอกระบบ” หรือ “ครูพี่เลี้ยง” ที่เป็นกลไกสำคัญสำหรับหลักการทำงานเชิงพื้นที่ ต้องทำบนรากฐานประเด็นปัญหาเด็ก อาทิ สิทธิมนุษยชน ทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ สร้างความมั่นคงให้กับชีวิต การสร้างพื้นที่เรียนรู้ด้วยตนเอง เน้นให้เด็กปรับตัวได้ นำไปสู่ความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ตามโครงการฯนี้ สามารถเข้าถึงการช่วยเหลือเด็กได้จริง ทำให้สังคมตระหนักและเกิดการช่วยเหลือเด็กแต่ละกลุ่มได้ตรงจุด

ขณะที่ ผศ.ดร.วีระเทพ ปทุมเจริญวัฒนา อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ทีมบริหารโครงการฯ จะมีหน้าที่วิเคราะห์ต้นทุนฐานข้อมูลเด็กนอกระบบการศึกษาของ กสศ.และตัวโครงการที่ผู้รับทุนส่งเข้ามา เพื่อออกแบบวิธีเก็บข้อมูลให้เป็นระบบ สนับสนุน ติดตามประเมินผลโดยจะเน้นการลงพื้นที่ เพื่อไปดูการทำงานทั้งก่อนและหลังดำเนินการ ว่าตอบโจทย์หรือไม่ หากมีปัญหาจะช่วยให้คำปรึกษาเพื่อให้การทำงานดีขึ้น ทั้งนี้คาดหวังว่าเด็กเยาวชนและครูจะเกิดการพัฒนาตนเอง ได้เห็นต้นแบบโมเดลการช่วยเหลือจากพื้นที่จริง เห็นภาพของเครื่องมือ วิธีพัฒนาเด็กและครูนอกระบบที่ทำงานจริงๆ เกิดความต่อเนื่องยั่งยืน

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า