ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต 2 เมียนมาฆาตกรรม นทท.เกาะเต่า

ศาลฎีกามีพิพากษายืนตามศษลชั้นต้นให้ประหารชีวิตนายเวพิวและนายเวพิว ชาวเมียนมา คดีร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่านักท่องเที่ยวอังกฤษบนเกาะเต่า

วันที่ 28 ส.ค.2562 ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 8 ให้ประหารชีวิตสถานเดียวนายซอลิน หรือโซเรน และนายเวพิว หรือ วิน สัญชาติเมียนมาในคดีฆาตกรรมนายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.57

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานรวมทั้งผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ตรงกับจำเลย ขณะที่คดีเกี่ยวกับการกระทำต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ ซึ่งมีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเฉพาะกิจขึ้นมาโดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ควบคุมใกล้ชิด ในการตรวจเก็บสถานที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานเพื่อจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของประเทศคืนมา ซึ่งมีการตรวจเก็บดีเอ็นเอทั้งคนไทยและต่างหลายชาติที่อาจจะเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีการใส่ถุงมือป้องกันการปนเปื้อน ใช้น้ำยาตรวจที่มีคุณภาพ เครื่องตรวจอัตโนมัติมีมาตรฐานในการตรวจพิสูจน์ เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน

และพิจารณาดูประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ทีละประเด็นโดยตัดผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปทีละคนทีละประเด็น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงจำเลยซึ่งครั้งแรกจำเลยก็เป็น 1 ในนั้นที่ต้องสงสัยแต่เมื่อยังไม่ชัดเจนจึงยังไม่ถูกดำเนินคดี กระทั่งตรวจดีเอ็นเอจากเยื่อบุกระพุ้งแก้มจำเลย ตรงกับการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อปรักปรำจำเลย เพราะในการสอบสวนต้องใช้เวลา , บุคคลากรจำนวนมาก รวมทั้งงบประมาณ หากจะสร้างพยานหลักฐานคงไม่ต้องให้สิ้นเปลืองทั้งบุคคลากรและงบประมาณ พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัย ข้อฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงฟังไม่ขึ้น

คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลจังหวัดเกาะสมุยในพื้นที่ ซึ่งศาลจังหวัดสมุยและศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืนให้ประหารชีวิตทั้งสอง ซึ่งระหว่างพิจารณาตั้งแต่ปี 2557 จำเลยทั้งสองไม่ได้รับการประกันตัว โดยเมื่อทั้งสองศาลมีคำพิพากษาแล้วระหว่างฎีกา จำเลยทั้งสองก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางบางขวาง กระทั่งนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาวันนี้ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งใกล้สถานที่คุมขัง ศาลจึงได้เบิกตัวจำเลยทั้งสองมาฟังคำพิพากษา

นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรีที่มีการเผยแพร่ภาพและเสียงผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดให้มีล่ามแปลภาษาพม่า  บริเวณชั้น 6 อาคารศาลอาญากลับไปยังจำเลยที่ศาลจังหวัดนนทบุรีให้ได้รับทราบถึงผลคำพิพากษา ซึ่งการจัดหาล่ามถือมาตรการของทางสำนักงานศาลยุติธรรมที่ให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นชาวต่างชาติ ถือเป็นการอำนวยความยุติธรรมในยุคก้าวสู่ศาลดิจิทัล

สำหรับคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤติ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2557 ตำรวจได้รับแจ้งพบศพนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2 คนบริเวณหาดทรายรี คือนายเดวิด มิลเลอร์ อายุ 24 ปี และ น.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ อายุ 23 ปีถูกทุบด้วยของแข็งที่ท้ายทอย ส่วน น.ส.ฮันนาห์ถูกตีด้วยของแข็งที่ใบหน้าและอยู่ในสภาพเปลือย จากนั้นตำรวจจับกุมนายวิน ซอ ตุน อายุ 21 ปี และนายซอลิน อายุ 21 ปี ชาวเมียนลูกจ้างร้านอาหารบนเกาะเต่าได้และรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ต่อมาผู้ต้องหาให้การต่อศาลว่าถูกทำร้ายร่างกายระหว่างการสอบสวนเพื่อให้รับสารภาพ

วันที่ 24 ธ.ค. 2558 ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิตชาวเมียนมาทั้ง 2 คน ครอบครัวผู้เสียชีวิตออกแถลงการณ์ขอบคุณศาลที่ตัดสินอย่างยุติธรรม ขณะมีการประท้วงหน้าสถานทูตไทยประจำนครย่างกุ้ง เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวชาวเมียนมาทั้ง 2 คน จากนั้นนายนคร ชมพูชาติ ทนายความได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย

วันที่ 1 มี.ค. 2562 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตชาวเมียมาทั้ง 2 คน และล่าสุดวันนี้ (29 ส.ค.2562) ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน