หนุ่มไปทวงเงินให้เเม่ ถูกเจ้าของสำนักธรรมสถาน สั่งลูกน้องยิงดับ

ประเด็นคือ – เเม่ร้องขอความเป็นธรรม ลูกชายถูกเจ้าของสำนักธรรมสถาน สั่งลูกน้องยิงดับ เหตุฉุนที่ถูกทวงเงิน เเม่หวั่นคดีไม่คืบ เผยผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ก.พ.61 ที่บ้านเลขที่ 144/2 หมู่ที่ 5 ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร  ซึ่งเป็นที่จัดงานศพนายยศพล บุศราทิศ อายุ 20 ปี หรือ น้องแบงค์ ลูกชายของนางดวงฤทัย บุศราทิศ อายุ 48 ปี ผู้สื่อข่าวพบกับนางดวงฤทัย และ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี แฟนสาวของน้องแบงค์ ผู้ตาย ที่อยู่อาการเศร้าโศกอย่างหนัก

นางดวงฤทัยเล่าว่า “เมื่อไม่นานมานี้ ในขณะตนเองกำลังมีปัญหาในชีวิต ได้รู้จักกับ นายศักดิ์ (นามสมมติ) เจ้าของธรรมสถานเเห่งหนึ่งได้ให้คำปรึกษาแก้ไขดวงชะตา และได้ขอยืมเงินจากตน 3 หมื่นบาท ตกลงว่าจะผ่อนคืนเดือนละ 3 พันบาท แต่ได้ใช้เงินคืนเพียง 2 ครั้ง เป็นเงิน 7,000 บาท พร้อมทั้งนัดให้ไปเอาเงินอีก 10,000 บาท ในวันที่ 18 กพ. 61 ซึ่งน้องแบงค์ลูกชายของตนเองทราบเรื่องมาตลอด

จนในช่วงค่ำของวันที่ 18 กพ. 61 น้องแบงค์ และ น.ส.เอ ได้ขับ จยย.คนละคัน เข้าไปยังสำนักธรรมสถานที่ตั้งอยู่หลังโรงเรียนเเห่งหนึ่งใน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยที่นางดวงฤทัยไม่ทราบว่า น้องแบงค์จะเข้าไปทวงเงินให้แม่ จนเกิดเรื่องขึ้น

ต่อมา น.ส. เอเล่าว่า “ในช่วงค่ำเวลา ประมาณ 19.30 – 20.00 น. ของวันที่ 18 ก.พ. 61 แบงค์และตนได้เข้าไปเอาเงินตามที่นัดไว้ เพราะเป็นคนคุ้นเคย รู้จักกันมานาน มีคนอยู่ในสำนักธรรมสถานที่เกิดเหตุประมาณ 5 – 6 คน ส่วนใหญ่จะเป็นลูกน้องของนายศักดิ์ แต่นายศักดิ์บอกว่าไม่มีเงิน แบงค์จึงถามกลับว่า “ตาจะจ่ายผมยังไง ตาเลื่อนนัดผมมาหลายครั้งแล้ว”

พูดไม่ทันขาดคำ นายศักดิ์หันไปสั่งคนในบ้านให้ปิดประตู และสั่งกลุ่มลูกน้องที่อยู่ในบริเวณนั้นว่า “เอาปืนมายิงมัน” มีลูกน้องมือขวาของนายศักดิ์ อายุ 51 ปี คว้าปืน ขนาด 9 มม.ออกมา จ่อไปที่หน้าผากของตน ก่อนที่แบงค์จะกระโดดเข้าคว้าตัวแล้วกระชากออกมาจากบ้าน แต่ลูกน้องของศักดิ์คนดังกล่าวก็ไล่ยิงทั้ง 2 คน จำนวน 3 นัด

“เมื่อขับออกมาจากสถานที่เกิดเหตุเเล้ว พบว่าแบงค์โดนยิง 1 นัด เข้าที่แผ่นหลังกระสุนทะลุคอหอย ตนจึงนำส่ง รพ.หลังสวน ก่อนส่งต่อไปยัง รพ.ชุมพรฯ โดยแบงค์เสียเลือดมาก กระสุนทะลุปอด โดนเส้นเลือดใหญ่ แพทย์ช่วยปั๊มหัวใจนานกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลา 22.30 น. ของวันที่ 18 ก.พ.” น.ส.เอกล่าว

พ.ต.ท.นิวัฒน์ ชื่นวิเศษ สวญ. สภ.บ้านในหูต พ.ต.ท.ภักดี  ตันอนุกูล สว.ส พร้อมกำลังตำรวจเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แต่คนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว ได้บันทึกปากคำเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งจากแฟนสาวของผู้เสียชีวิต และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อีก 2 คนที่ให้การตรงกัน เเต่ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ อีกทั้งผู้ก่อเหตุวางตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เคยมีปัญหาเรื่องหลอกลวงชาวบ้านมาหลายราย แต่ไม่มีใครสามารถเอาผิดได้ เพื่อนๆ ของน้องเเบงค์จึงนำเรื่องไปโพสต์ลงในสื่อโซเซียล

ในขณะที่ พ.ต.ท.นิวัฒน์ ซึ่งกำลังเดินทางไปประชุม ที่กองบัญชาการ ตร.ภ.8 จ.ภูเก็ต  กล่าวทางโทรศัพท์ว่า ได้ออกหมายจับมือปืนเเล้ว กำลังหลบหนีไปในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ส่วนนายศักดิ์ ตร.กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ในฐานะผู้จ้างวานต่อไป ยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจทำงานเร็ว และไม่มีอิทธิพลใดมาเบี่ยงเบนคดีได้

นางดวงฤทัย เเม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า “น้องแบงค์เป็นเด็กดีมาก ไม่เที่ยวเตร่ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า เพิ่งเรียนจบ ปวช.3 กำลังไปสมัครเรียนราม และช่วยพ่อแม่ทำสวน ทำงานตลอดเวลา อีกทั้งเพิ่งหมั้นกับ น.ส.เอ เมื่อเดือน ต.ค. 60 วางแผนว่า จะแต่งงานกันในอีกไม่นาน แต่น้องแบงค์กลับมาถูกสังหารไปต่อหน้าต่อตา ก็อยากให้จับทั้งคนบงการและคนยิง เพื่อลงโทษอย่างสาสมต่อไป”