Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ประเด็นคือ – ฝากขัง ค้านประกันตัว มือมีดปาดคอโชเฟอร์รถตู้ ตำรวจคุมตัวเมียโชเฟอร์รถตู้ดำเนินคดี เผยสั่งกิ๊กหนุ่มพร้อมออกค่าใช้จ่ายให้ไปฆ่าสามีตัวเอง กำชับบอก “ฆ่าเขาแล้วเรามาอยู่ด้วยกัน” ด้านมือมีดบอก บวชมานาน 8 ปี แต่ต้องสึกเพราะผู้หญิงคนนี้

สืบเนื่องจาก คดีฆาตกรรมนายศุภกร ยาวิชัยย์ อายุ 45 ปี โชเฟอร์รถตู้ เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม บริเวณลานจอดรถเอสอาร์คอนโดมิเนียม ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 ก.พ.

หลังจากนั้น ตำรวจ สภ.แม่ปิง เมืองเชียงใหม่ สามารถจับกุมนายบรรลือ อู่บุญมา อายุ 33 ปี ชาวอุดรธานี ผู้ต้องหาที่ลงมือฆ่า โดยนายบรรลือให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า เพราะโกรธแค้นที่ถูกดุด่าอย่างรุนแรง โดยไม่ได้ซัดทอดใคร

แต่จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่กลับพบว่า ผู้ต้องหาไม่เคยเดินทางมาที่เชียงใหม่ จึงไม่น่าจะรู้จักกับผู้ตายมาก่อน ขณะที่การก่อเหตุก็มีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีการฉีกทำลายหลักฐานสมุดบัญชีเงินฝาก และบัตรเอทีเอ็มจึงขยายผลการสอบสวน จนสามารถจับกุมนางสาววาทิตา บุญต่อม อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ได้คางานศพของนายศุภกรผู้เป็นสามี เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25 ก.พ.)

https://www.youtube.com/watch?v=6LrZ75vjWDM&t=6s

ต่อมาเมื่อเช้าวันนี้ ( 26 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง คุมตัวนายบรรลือจากห้องควบคุม สภ.แม่ปิง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนนางสาววาทิตา เช้าวันนี้ ตำรวจ สภ.แม่ปิง ได้ไปรับตัวที่ สภ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเย็นวันนี้

ทั้งนี้จากข้อมูลของตำรวจพบว่า นางสาววาทิตา และนายบรรลือ มือมีด แอบมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเชิงชู้สาว ระหว่างที่นายศุภกร มาทำงานหารายได้ที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยนายบรรลือได้ยอมรับสารภาพกับตำรวจ หลังทราบว่านางสาววาทิตาถูกจับกุมว่า ได้รู้จักกับ น.ส.วาทิตา ตั้งแต่สมัยที่เรียนโรงเรียนมัธยมที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จากนั้นตนได้ย้ายตามครอบครัวไปอยู่ จ.อุดรธานี และมาบวชอยู่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.เพชรบูรณ์ นาน 8 ปี

ระหว่างที่บวชเรียนอยู่นั้น ได้เล่นเฟซบุ๊กไปเจอกับ น.ส.วาทิตา ซึ่งเป็นแฟนเก่า ฝ่ายหญิงได้ปรับทุกข์เรื่องสามีว่าแยกกันอยู่ และฝ่ายหญิงก็โอนเงินมาให้ใช้ตลอด จนยอมสึกจากการเป็นพระเมื่อเดือน ธ.ค. 60 เพื่อจะมาอยู่ด้วยกัน แต่ติดปัญหาสามีของฝ่ายหญิงไม่ยอมเลิก ทั้งที่ผ่ายหญิงเคยขอหย่า ทำให้ฝ่ายหญิงตัดสินใจสั่งให้นายบรรลือลงมือฆ่าสามี

ก่อนที่แผนฆ่านายศุภกรจะเกิดขึ้น มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา นางวาทิตาและนายบรรลือ ได้นัดพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย ก่อนที่นางวาทิตาจะขอให้นายบันลือฆ่าสามีเพื่อกำจัดให้พ้นทาง ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า นางสาววาทิตาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 10,000 กว่าบาท ทั้งค่าโรงแรมที่พัก และค่าเดินทางให้กับนายบรรลือ

โดยนายบรรลือได้นั่งรถ จากวัดที่ จ.เพชรบูรณ์มาดูลาดเลาได้ 3 วัน เพื่อรอนายศุภกร จนพบในวันที่ 3 จึงเข้าไปหาเรื่องทำร้ายร่างกาย แทงและปาดคอผู้ตาย จากนั้นก็หลบหนี

ทั้งนี้หลักฐานสำคัญที่เชื่อมโยงไปถึงตัวนางสาววาทิตาก็คือ ในช่วงวันก่อเหตุ นางสาววาทิตาติดต่อกับนายบรรลือ เพื่อแจ้งความเคลื่อนไหวของผู้ตาย จนกระทั่งมาเฝ้ารอก่อนที่จะใช้อาวุธมีดก่อเหตุสยอง

และหลังเกิดเหตุ ตำรวจยังได้หลักฐานว่านายบรรลือได้โทรไปหานางสาววาทิตาทันที เพื่อรายงานผลว่าได้ฆ่านายศุภกรเสียชีวิตแล้ว ก่อนที่จะหลบหนี ซึ่งทางตำรวจได้รวมรวมหลักฐานและออกหมายจับทันที

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.พ. 61)ที่ฌาปนสถานบ้านทุ่งดุก ต.เวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ญาติได้เคลื่อนย้ายศพของนายศุภกรมาเพื่อทำการฌาปนกิจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติและเพื่อนบ้าน

ทั้งนี้น้าสาวของนายศุภกร คือ นางพลอย ศิริตา อายุ 53 ปี ได้เปิดเผยกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ ว่า หลังคดีออกมาเป็นอย่างนี้ตนก็ตกใจ ไมนึกว่า น.ส.วาทิตา จะมีจิตใจโหดเหี้ยมเช่นนี้ เพราะจากการอยู่บ้านใกล้กันเป็นคนตั้งใจทำมาหากินเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนอย่างเอาใจใส่

ตนอยากถามว่า ทำไมต้องฆ่า หากไม่รักกันก็เลิกรากันไป ส่วนเรื่องลูกๆ ของนายศุภกร 2 คน คนโตเป็นผู้หญิงกำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 และคนเล็กกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 หลังเสร็จงานศพจะคุยกันอีกทีว่าใครจะเลี้ยงดู

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า