ล่าไอ้คลั่งขับกระบะดวลปืนตำรวจ หนีชนทั่วเมือง สุดท้ายไม่รอดถูกยิงสาหัส

ประเด็นคือ- นาทีระทึก ! ไอ้คลั่งขับรถกระบะป่วนเมืองดวลปืนตำรวจ หนีไปทั้งเมืองสุราษฎร์ธานี ตำรวจระดมกำลังไล่สกัดกว่าครึ่งชั่วโมง สุดท้ายรถสายตรวจขับชนท้าย ตำรวจเข้าประกบยิงล้อยางและยิงคนขับ ไปไม่รอดเสียหลักชนเสาไฟแดงกลางเมือง ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 ก.ย. 60) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุจากพนักงานปั๊มน้ำมัน ปตท.ที่ตั้งอยู่ในบางใบไม้ ต.บางใบไม้ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ว่า มีคนร้ายถืออาวุธปืนเข้าไปในปั๊มและถามหาเจ้าของปั๊ม

เจ้าหน้าที่วิทยุจึงได้แจ้งให้สายตรวจจักรยานยนต์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อคนร้ายเห็นตำรวจได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ตอนครึ่งสีเขียว หมายเลขทะเบียน ผจ-3357 สุราษฎร์ธานี หลบหนีเข้าตัวเมือง พร้อมกับยิงสกัดการไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่

เจ้าหน้าที่จึงได้วิทยุขอกำลังเสริมพร้อมกับตั้งจุดสกัดไปทั่วเมือง หลังจากคนร้ายได้ขับรถลงจากสะพานข้ามเกาะลำพู มุ่งหน้าไปทางโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อขับไปถึงสามแยกวัดกลางใหม่ คนร้ายเห็นเจ้าหน้าตั้งด่านสกัดจึงได้กลับรถวิ่งย้อนกลับเข้าตัวเมือง เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด คนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้เลี้ยวรถเข้าไปในโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีและได้ขับชนแผงกั้นรถจักรยายนต์และรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยได้รับความเสียหายหลายคัน

จากนั้นคนร้ายได้ขับรถออกจากโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ผ่านหน้าศาลหลักเมือง เลี้ยวขวามาตามเส้นทางตลาดสดเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และขับรถย้อนศรผ่านหน้าตลาดสดซึ่งการจราจรหนาแน่น ขณะนั้นมี ดาบตำรวจสมชาย ศรีมหาวาส หัวหน้าป้อมแหลมทราย ที่ขับรถกระบะอีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว-1730 กทม. ที่ไล่ติดตามรถคนร้ายมาจากหน้าโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้ตัดสินใจขับรถเข้าชนท้ายรถคนร้าย

และในขณะเดียวกัน รถสายตรวจจักรยานยนต์ได้วิ่งขึ้นประกบด้านข้าง พร้อมกับยิงใส่ล้อรถและยิงใส่คนขับ จนรถเสียหลักพุ่งไปชนเสาไฟแดงบริเวณสี่แยกโรงแรมซีบีดี หน้าร้านทองก้องไพศาล  คมกระสุนได้ถูกลำตัวคนร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าเก็บหลักฐานในที่เหตุ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่าคนร้ายเป็นผู้ใด ทางเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบรายละเอียด ความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป