รวบทันควัน ! หนุ่มเดนคุก ปีนบ้านจับผู้เสียหายมัดชิงทรัพย์

ประเด็นคือ – รวบทันควันหนุ่มเดนคุกปีนบ้านจับผู้เสียหายมัดชิงทรัพย์ อ้างออกจากคุกมาไม่มีงานทำเป็นหนี้ เมียท้อง 

เมื่อวันที่ 29 ก.ย.60 เวลา 20.00 น. ที่ สน.บางขุนเทียน พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 นำกำลังจับกุมตัว นายชรินทร์ สางเสือโพธิ์ หรือ รินทร์ อายุ 29 ปี พร้อมของกลางเงินสด 20,460 บาท โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง พระเครื่องจำนวนหนึ่ง และมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต 1 เล่ม โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 31/36 ซอยเอกชัย 30 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.

โดย พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ เผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายถูกคนร้ายจับมัดมือแล้วชิงทรัพย์ภายในบ้านเช่าเลขที่ 67/204 ซอยเอกชัย 10/1 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. พบ น.ส.อรุนณี หมื่นพล อายุ 52 ปี อาชีพแม่บ้าน ในสภาพถูกซ้อมจนสะบักสะบอม ถูกเศษผ้าอุดปาก และถูกกางเกงยางยืดมัดไพล่หลัง โดยห้องพักถูกรื้อค้นทรัพย์สินกระจัดกระจายมีข้าวของสูญหายไปหลายรายการ ประกอบด้วย เงินสด 15,000 บาท เลสข้อมือทองคำ หนัก 2 บาท และพระเครื่องจำนวนหนึ่ง

จากการสอบสวน น.ส.อรุนณี ให้การว่า บ้านหลังนี้เช่าอยู่กับสามีเพียง 2 คน ก่อนเกิดเหตุอยู่บ้านเพียงลำพัง โดยสามีออกไปรับจ้างเดินสายไฟ ในขณะที่กำลังปอกผลไม้อยู่ภายในบ้านจู่ๆ มีคนร้าย อายุราวๆ 25-30 ปี ผิวคล้ำ ไว้ผมรองทรงต่ำ สวมเสื้อแขนยาวสีขาว บุกเข้ามาใช้กำลังชกเข้าที่ใบหน้าและตามร่างกายหลายครั้ง จากนั้นชักมีดปลายแหลมที่นำติดตัวมาด้วยข่มขู่ไม่ให้ส่งเสียง และนำเศษผ้ามาอุดปากพร้อมใช้กางเกงยางยืดมัดข้อมือตนไพล่หลัง ก่อนที่จะรื้อค้นเอาทรัพย์สินทั้งหมดและหลบหนีไป พอตนตั้งสติได้จึงรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

พบข้อมูลคนร้าย คือ นายชรินทร์ ซึ่งพักอยู่ในห้องเช่าท้ายซอยเอกชัย 30 คนร้าย นำเลสข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ของผู้เสียหายไปขายขาดในราคา 36,000 บาท จึงนำกำลังรุดไปรวบตัวเอาไว้ได้ก่อนที่ผู้ต้องหาจะหลบหนี

สอบสวนนายชรินทร์ ยอมรับสารภาพว่า เคยถูกตำรวจ สน.บางมด จับกุมข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และถูกตำรวจ สน.บางบอนจับกุมข้อหาเสพยาบ้า ติดคุกเพิ่งออกมาได้ประมาณ 1 ปี คดีนี้ยอมรับเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงเพราะว่างงานไม่มีเงินใช้ ประกอบกับต้องหาเงินเลี้ยงภรรยาซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน กับลูกชายวัย 2 ขวบ ที่ผ่านมาตนขอหยิบยืมเงินจากพรรคพวกที่รู้จักมาหลายราย จนหนี้สะสมรวมกันประมาณ 10,000 บาท จึงวางแผนนำมีดปลายแหลมเดินออกจากบ้านพักไปหาเหยื่อตามห้องเช่ากระทั่งพบผู้เสียหายอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ก็ประสบโอกาสก่อเหตุ

จากนั้นนำเงินไปใช้หนี้ให้พรรคพวกประมาณ 10,000 บาท และแบ่งเงินไปซื้อโทรศัพท์ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาเอกชัย ถอยเครื่องใหม่ราคาประมาณ 5,000 บาท จากนั้นจึงย้อนกลับมาที่ห้องเช่าไม่คิดว่าทางตำรวจจะนำกำลังไปจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้