เผาแล้ว ยายวัย 73 ปี เหยื่อโจ๋ฆ่าข่มขืน ทิ้งศพคาบ้าน

ประเด็นคือ – เผาแล้ว ศพยาย 73 ปี เหยื่อโจ๋ฆ่าข่มขืนทิ้งศพคาบ้าน  ท่ามกลางความโศกเศร้าอาลัยของญาติ  ขณะหญิงชราในหมู่บ้านต่างหวาดผวาหวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย เผยประวัติโจ๋โหดพ่อแม่เสียชีวิตอาศัยอยู่ปู่ย่าตั้งแต่ 3 ขวบ กลายเป็นเด็กมีปัญหาชอบลักเล็กขโมยน้อย กินเหล้า เสพยา เที่ยวเตร่ไปเรื่อย 

วันที่ 11 เม.ย.61 ความคืบหน้ากรณี ที่พบศพนายายวัย 73 ปี นอนเสียชีวิตในบ้านของตัวเอง เลขที่ 46 หมู่ 4 บ้านตะค้อ ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ในสภาพมีร่องรอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกาย ทั้งพบเชือกไนล่อนที่บริเวณลำคอ ซึ่งจากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบร่องรอยคล้ายถูกล่วงละเมิดทางเพศ ตำรวจจึงนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาล จ.สุรินทร์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ และข่มขืน

เหตุเกิดเวลาประมาณ 23.45 น. วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุฆ่ายายได้ เป็นเยาวชนชายอายุเพียง 17 ปี ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ตาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา “ชิงทรัพย์ บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล และเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า” ส่วนข้อหาข่มขืน ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันอีกครั้ง และขณะนี้ถูกส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (11 เม.ย.) ได้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจศพของยายวัย 73 แล้ว ที่วัดบ้านตะค้อ ต.พรสำราญ อ.คูเมือง ท่ามกลางความโศกเศร้าของญาติพี่น้องลูกหลาน โดยมี พ.ต.อ.เจตสฤษดิ์  แพ่งศรีสาร  ผกก.สภ.คูเมือง เป็นประธานในพิธี ทั้งนี้ได้มีญาติพี่น้อง เพื่อนบ้านมาร่วมพิธีฌาปนกิจศพและแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก

ซึ่งชาวบ้านที่มาร่วมงานศพต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่ไม่เคยเกิดในหมู่บ้านมาก่อน จึงสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านโดยเฉพาะหญิงสูงอายุที่อาศัยอยู่ลำพัง เพราะส่วนมากลูกหลานไปทำงานต่างจังหวัด

นางพลอย ใจงาม อายุ 58 ปี ชาวบ้านบ้านตะค้อ บอกว่า ตั้งแต่เกิดมาจนอายุปูนนี้ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้ขึ้นในหมู่บ้าน และไม่คาดคิดว่าเยาวชนที่มีอายุเพียง 17 ปี และเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน จะมีจิตใจโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความหวาดผวาให้กับตนเองและหญิงสูงอายุในหมู่บ้านเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก

ด้านนายบัวไล รอไธสง ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า เยาวชนที่ก่อเหตุฆ่ายายเสียชีวิต ได้อาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ 3 ขวบ พอโตมาก็กลายเป็นเด็กมีปัญหาชอบลักเล็กขโมยน้อย ดื่มเหล้า เที่ยวเตร่กับกลุ่มเพื่อนไปเรื่อย ทั้งมีประวัติเคยเสพยาเสพติดด้วย

และทราบว่าก่อนเกิดเหตุก็ได้ดื่มเหล้าขาวและเสพยากับเพื่อนก่อนจะไปก่อเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าสร้างความหวาดผวาให่กับคนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะหญิงสูงอายุที่อยู่ตามลำพัง เพราะเกรงจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก ซึ่งทางผู้นำชุมชนก็จะได้ช่วยกันสอดส่องดูแลเข้มงวดมากขึ้น