ส่อพลิก! คดีอุ้มสาวเรียกค่าไถ่ ตร.ค้นเจอยาบ้า ในห้องพักผู้เสียหาย

คดีอุ้มสาวเรียกค่าไถ่ กลางเมืองกาฬสินธุ์ ส่อวุ่น ตร.เตรียมออกหมายจับสาวผู้เสียหาย หลังค้นห้องพักพบยาบ้า 4,000 เม็ด โยงเครือข่ายยาเสพติดชื่อดังที่ถูกจับก่อนหน้านี้

วันที่ 15 ก.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้าย 5 คน ก่อเหตุกระชากผมและอุ้ม น.ส.เอ (นามสมมุติ) บริเวณหน้าจวน ผวจ.กาฬสินธุ์ ก่อนนำไปกักขังไว้ที่โกดังร้างข้างถนน ก่อนโทรศัพท์ไปหาพ่อ แม่ และญาติของ น.ส.เอ เพื่อเรียกเงินค่าไถ่ตัว จำนวน 350,000 บาท

ต่อมา วานนี้ (14 ก.ค.) ความคืบหน้าของคดี ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สามารถติดตามตัวผู้ต้องหามาได้แล้วทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย นายมานะศักดิ์ อุดมพันธ์ อายุ 23 ปี นายสุรศักดิ์ จันทร์เพ็ง อายุ 20 ปี และนายธนารัตน์ ภูโชคชัย อายุ 23 ปี ซึ่งสามารถจับกุมได้ภายหลังก่อเหตุ

ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน คือ นายรัฐศาสตร์ ภูนายาว อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นชายในคลิปกล้องวงจรปิดที่ดึงกระชากผม น.ส.เอ ลงจากรถ และ นายศุภมิตร บัญชา อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะสีแดงนั้น ได้มามอบตัวแล้ว เบื้องต้น ผู้ต้องหา 5 คนนี้ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

โดยจากพฤติกรรมและหลักฐานสำคัญรวมถึงคำให้การของผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 6 ข้อหา ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ข่มขืนใจผู้อื่น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพยายามหน่วงเหนี่ยว หรือกักขังเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่, พาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และได้นำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดกาฬสินธุ์แล้ว

แต่คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะที่มาที่ไปของเงิน เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพียงผู้รับจ้างมาทวงเงินจาก น.ส.เอ และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงิน 10,000 บาท เท่านั้น แต่หลังจากที่ทำการขยายผล โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเพื่อนของ น.ส.เอ ตำรวจจึงได้ไปที่ห้องพักของ น.ส.เอ และเพื่อน ปรากฏไปพบยาบ้า 4,000 เม็ด ซึ่งตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม กำลังทำการขยายผล แต่ในส่วนของตำรวจกาฬสินธุ์ ก็จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 5 คนนี้ ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาเพื่อส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลต่อไป

ด้าน ผู้บังคับการภูธร จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ กล่าวว่า เป็นคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุใกล้กับจวนผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างไม่เกรงกลัว ถึงแม้จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้แล้ว แต่เมื่อมีการขยายผล คดีนี้ผู้เสียหายอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติด

เบื้องต้น ยืนยันว่าพบยาบ้าในห้องพักของ น.ส.เอ ตำรวจจึงทำการจับกุม นายบี เพื่อนของ น.ส.เอ ไว้ดำเนินคดีในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ น.ส.เอ เพราะถูกซัดทอดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนนี้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงเกี่ยวกับการเชื่อมโยงไปถึงกระบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งข้อมูลตรงกับ ตำรวจภูธรภาค 4 ว่า เครือข่ายค้ายาบ้า ได้ใช้ชื่อว่า “มันทุกเม็ด” เป็นเฟซบุ๊กเพื่อกระจายยาบ้าในแถบภาคอีสานและเป็นองค์กรใหญ่ และทำการกระจายยาบ้าไปตามกลุ่มนักเสพหน้าใหม่ในชุมชนและหมู่บ้าน

https://www.youtube.com/watch?v=5K4bmRfMdvE

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews