Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

สุดระทึก ! หนุ่มก่อสร้างเมายาคว้ามีดจี้คอเด็ก แถมจี้วิน จยย.รับจ้างบังคับพาหนี ก่อนวินตัดสินใจทิ้งรถวิ่งไปแจ้งตำรวจมาช่วย ส่วนคนร้ายกระโดดน้ำหนีลงคลองรังสิตฯ ก่อนถูกจับกุมได้ในที่สุด รับสารภาพคลั่งยาโหยหาแฟนสาวที่เพิ่งเลิกกันได้ 3 วัน

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.พัชร์ธนพล รัชตาธารากาญจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้อาวุธมีดจีคอเด็กที่บริเวณสะพานคู่ ใกล้โรงงานกรีนสปอร์ต ถ.เสมา-ฟ้าคราม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี จึงรีบไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พ.ต.ท.นิมิตร นูโพนทอง รอง.ผกก.ป ,พ.ต.ท.ชยุต คุ้มครอง สวป. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สายตรวจ และอาสาสมัครกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต

ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบนายทนงศักดิ์ ชวนชม อายุ 27 ปี (ทราบชื่อภายหลัง) บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.นาลือ อ.เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท ลอยคออยู่ภายในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ช่วงบริเวณด้านหน้าหมู่บ้านธงชัย ห่างจากจุดเกิดเหตุเล็กน้อย โดยมีประชาชนและพลเมืองดี ช่วยกันติดตามและพยายามตะโกนให้เข้าฝั่ง แต่นายทนงศักดิ์ ไม่มีท่าทีจะยินยอม กลับว่ายน้ำหนี โดยในมือทั้งสองข้างยังคงถือมีดและไม้อยู่ จนต้องวิทยุขอเรือจากเจ้าหน้าที่เทศบาลนครรังสิต โดยใช้เวลาประมาณเกือบ 40 นาที เมื่อเรือมาถึงจึงได้ช่วยกันต้อนให้เข้ามาใกล้ฝั่ง ก่อนที่อาสาสมัครกู้ชีพเทศบาลนครรังสิต จะกระโดดลงไปในน้ำ เพื่อเข้าไปล็อกตัวได้สำเร็จ แต่นายทนงศักดิ์ กลับไม่ยินยอม โดยดีดิ้นไปมาตลอดต้องใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกู้ภัยกว่า 6 คน ช่วยกันหามไปที่รถ ก่อนนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก โดยพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กชาย 1 ราย ถูกมีดบาดที่นิ้วมือซ้าย และมีบาดแผลเล็กน้อยที่ ลำคอ แขน ขา จึงได้รีบให้กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ต่อไป

จากการสอบสวนนายทนงศักดิ์ ชวนชม อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาให้การว่า ตนทำงานอยู่ที่ย่านมีนบุรี ก่อนเกิดเหตุได้เดินผ่านหน้าบ้านเด็กชายจึงได้ใช้อาวุธมีดจี้คอ พร้อมกับบอกให้อยู่เฉยๆ เพราะตนอย่างได้รถจักรยานยนต์ เพื่อขี่กลับไปหาแฟนที่พึ่งเลิกกันไปได้ 3 วัน จังหวะนั้นได้มีวินจักรยานยนต์รับจ้างขับผ่านมาพอดี จึงได้เรียกพร้อมกับบังคับเด็กให้ขึ้นรถมาด้วย โดยบอกวินให้ไปปากทาง เมื่อถึงปากทางก็บอกให้ขับไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดเกิดเหตุคนขับรถวินจยย.ได้ดับเครื่องแล้ววิ่งหนี ก่อนที่จะจับเด็กไว้เป็นตัวประกัน จากนั้นมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยจึงได้รีบวิ่งหนีลงไปในน้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะช่วยกันจับตัวมาได้ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า กำลังอยู่ในสภาพมึนเมาเพราะเพิ่งเสพยาไอซ์กับดื่มเหล้าก่อนก่อเหตุ

ด้านนายนพนันต์ กรุตสัมพันธ์ 43 ปี พลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาพบ เผยว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็พบว่ามีคนร้ายกำลังใช้มีดจี้คอเด็ก จึงได้ลงไปช่วยห้าม แต่คนร้ายกลับพาเด็กเดินหนี ตนจึงเดินตาม ซึ่งคนร้ายตะโกนออกมาตลอดว่า “อย่าเข้ามาไม่งั้นเด็กตาย” ตนก็พยายามตามห่างๆ จนคนเริ่มเยอะ ตนเห็นคนร้ายยกมีดขึ้นแล้วแทงไปที่เด็ก จังหวะนั้นเด็กก็สะบัดจนหลุด ตนจึงวิ่งเข้าไปจับแต่คนร้ายก็วิ่งกระโดดลงไปน้ำคลองรังสิตประยูรศักดิ์

ส่วนนายมงคล กิ่งเกษม อายุ 35 ปี วินจยย. รับจ้างคันที่คนร้ายโบกแล้วบังคับให้เด็กขึ้นนั่ง ให้การว่า ขณะที่ตนขับรถจยย.รับจ้างตามปกติ ออกมาจากท้ายซอย ได้มีคนร้ายและเด็กชายโบกรถ ก่อนที่จะให้ไปส่งที่ปากทาง แต่เมื่อมาถึงปากทางกลับบอกว่าให้ไปส่งที่ ห้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และบอกว่าให้บิดแรงๆ ถ้าหยุดจะแทงให้ทะลุทั้ง 2 คน ซึ่งในตอนแรกตนไม่เห็นว่าคนร้ายมีมีด ก็พยายามมองกระจกข้าง จนเห็นมีดที่คนร้ายถือ จึงได้ขับไปตามที่คนร้ายบอก แต่เมื่อขับมาถึงคลองหนึ่ง คนร้ายกลับบอกว่าให้เลี้ยวขึ้นสะพาน และพาย้อนมาเส้นเลียบคลอง จังหวะนั้นแฟนสาวโทรมาพอดี แต่คนร้ายกลับบอกว่าให้เอาโทรศัพท์มา ซึ่งตนคิดในใจว่าถ้าคนร้ายให้ไปใช้เส้นทางที่เปลี่ยว จะต้องทำอะไรสักอย่าง จนกระทั่งย้อนมาถึงตรงโรงงานกรีนสปอร์ต จังหวะนั้นรถคนงานเลิกพอดี ตนจึงชะลอรถ แต่คนร้ายบอกว่าให้บิดไปเลย ตนจึงตัดสินใจ ดับเครื่องแล้วทิ้งรถพร้อมกับหยิงกุญแจรถมาด้วย แล้วรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ช่วยแจ้งตำรวจ จากนั้นมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาและเข้ามาช่วยตามคนร้ายไปจนตำรวจมาและจับกุมได้ดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเช็คประวัตินายทนงศักดิ์ พบว่ามีหมายจับของศาลจังหวัดชัยนาท ในข้อหาพกพาอาวุธปืน ตั้งแต่ปี 57 ซึ่งในเบื้องต้นจากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเสพยามา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการส่งตรวจหาสารเสพติดอีกครั้ง

เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหากับนายทนงศักดิ์ 1.ชิงทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธ 2.ทำร้ายร่างกายผู้อื่น 3.กักขังหน่วงเหนี่ยว 4.ข่มขืนใจโดยใช้อาวุธ 5.พาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และตรวจร่างกายแล้วเจอสารเสพติดก็จะเพิ่มข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษอีกข้อหา ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในขั้นตอนคุมตัวเพื่อดำเนินดคีตามกฎหมายต่อไป

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า