สลด! ชายชรา 75 ปี กรุงเก่ายิงขมับตัวเองดับ คาดเครียดจัดป่วยไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน

เฒ่าชรา วัย 75 ปี อยุธยาเครียดจัดป่วยไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้าน ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา 

เมื่อเวลา 08.30 น วันนี้ (1 ก.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท กิติศักดิ์ อุดมรักษ์  รองสว. (สอบสวน ) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตภายในบ้าน เลขที่ 32/40 หมู่ 6 ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา แพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และสมาคมอยุธยารวมใจ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเป็นบ้านไม้สองชั้น โดยชั้นล่างของบ้านพบศพ นายพยงค์ สุขร่ำไป อายุ 75 ปี นอนหงายเสียชีวิต ลำตัวพาดกับที่นอนครึ่งตัวไม่สวมใส่เสื้อ นุ่งผ้าข้าวม้าผืนเดียว ที่พื้นห้องพบอาวุธปืนลูกซองสั้นตกอยู่ 1 กระบอก เก้าอี้ล้ม 1 ตัว บริเวณฝาพนังพบเศษมันสมองกระจายติดอยู่จึงได้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า หลังจากได้นำโจ๊กและขนมมาให้ผู้ตาย เหมือนประจำทุกวัน สักพักได้ยินเสียงอาวุธปืนดัง จึงรีบวิ่งมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว ปกติผู้ตายอาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว ลูกๆ ทำงานในกรุงเทพมหานคร มาระยะหลังผู้ตายสุขภาพไม่ดีเดินไม่สะดวก  และมือและแขนจะมีแรงข้างเดียว ตนเองจะคอยซื้ออาหารมาฝาก หรือเวลาที่ผู้ตายอยากได้อะไรจะขอให้ตนช่วยซื้อมาให้ เมื่อวันก่อนล้มในบ้านหลายครั้งและบ่นว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ตนเองพูดให้กำลังใจ ไม่คิดว่าผู้ตายจะมาตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง

ต่อมานางวัชราภรณ์ ราชวังเมือง อายุ 56 ปี ลูกบุญธรรมได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมกับกล่าวว่า เคยอาศัยอยู่กับผู้ตายตั้งแต่เด็กพอมีครอบครัวได้แยกไปอยู่กับครอบครัว จะคอยมาเยี่ยมพูดคุยกับผู้ตายอยู่เป็นประจำ ยังพูดคุยกันดีอยู่ให้ศีลให้พรเวลาที่มาหาเอาข้าวของมาให้ และลูกสาวอีกคนเพิ่งจะมาเยี่ยม ได้เพียงสองวัน ไม่คิดว่าพ่อจะมาตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะเกิดความเครียดในเรื่องของสุขภาพ เคยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปไหนมาไหนได้ มาระยะหลังสุขภาพไม่ดี ไปไหนมาไหนเองไม่ได้ ไม่อยากเป็นภาระให้กับลูกหลาน จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยังตัวเอง โดยจะส่งศพชันสูตรอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง