ส่วยหมูยอ! ตร.ฉาวรีดเงินเจ้าของโรงงานหมูยอ จ.อุดรธานี 7 หมื่นบาท

เจ้าของโรงงานลูกชิ้นและหมูยอ จ.อุดรธานี สุดทน ถูกตำรวจตรวจค้นเรียกเก็บเงิน 7 หมื่นบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีโรงงานไม่มีใบอนุญาต และ อย. พร้อมแจ้งให้จ่ายอีก 5,000 บาท ทุกเดือน

วันที่ 7 ก.ย. 2561 วานนี้นายเจษฎา ปานะถึก ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี นำนายสุเทพ แก้วเวียงชัย และ นางบุศดี อุยุตะ สามีภรรยาเจ้าของโรงงานลูกชิ้นหมูยอ บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมหลักฐายเป็นภาพจากวงจรปิด เข้าแจ้งความต่อร.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ภูชื่นบาน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี หลังถูกกลุ่มชายอ้างเป็นตำรวจชุดป้องกันปราบปราม และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สังกัด ภ.จว.อุดรธานี กรรโชกทรัพย์จำนวน 70,000 บาท และเรียกเก็บส่วยรายเดือน เดือนละ 5,000 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา

นายสุเทพ และนางบุศดี ให้การว่า เปิดโรงงานทำลูกชิ้นและหมูยอมานานกว่า 2 ปี ดำเนินการขออนุญาต และ อย. ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าโทรมาสั่งหมูยอ 200 กิโลกรัม ราคา 5,000 บาท ให้ไปส่งที่ลานจอดรถหลังตลาดไทยอีสาน ถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อไปถึงจุดนัดลูกค้าปรากฎว่า มีกลุ่มชาย 5-6 คนอ้างตัวเป็นตำรวจ ขอตรวจค้นรถหมูยอ และถามหาเลข อย. แต่พนักงานส่งของแจ้งว่าไม่มี จึงพากันไปที่โรงงานเพื่อ และแจ้งว่าโรงงานไม่มีใบอนุญาต และไม่มี อย. และควบคุมทั้งหมด สภ.อุดรธานี พร้อมกับเรียกเงิน 7 หมื่นบาท หากไม่อยากถูกดำเนินคดี นอกจากนี้กลุ่มชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังบอกให้จ่ายรายเดือนอีกเดือนละ 5,000 บาท

เจ้าของโรงงานหวั่นได้รับอันตรายจึงยอมตกลง จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวได้ปล่อยตัวกลับโรงงาน พร้อมกับขับรถตามมาด้วยเพื่อให้ลบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงงานทั้งหมด เมื่อกลุ่มชายดังกล่าวกลับไปแล้ว จึงทำการกู้ภาพคืนมาและปริ้นรูปไว้เป็นหลักฐานจากนั้นได้เดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี และมาแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ

ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบโรงงาน ใบอนุญาตมีครบถ้วนถูกต้อง และหลักฐานจากกล้องวงจรปิดเห็นกลุ่มผู้ที่อ้างว่าเป็นตำรวจชัดเจน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี จึงได้รับร้องเรียนไว้ และนำผู้ถูกกรรโชกทรัพย์และเรียกเก็บส่วย มาแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจดังกล่าว พร้อมกับนำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี แต่ผู้ถูกร้องเป็นข้าราชการตำรวจ จึงต้องส่งเรื่องไป ปปท.เขต 4 ขอนแก่น อีกทางหนึ่งด้วย ส่วนเรื่องทางวินัย จะส่งเรื่องไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ว่ากลุ่มชายดังกล่าวที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เป็นตำรวจจริงหรือไม่ มีตำรวจจริงกี่นาย เพื่อจะได้สอบสวนทางวินัยต่อไป