ประกาศกฎอัยการศึก 2 ตำบลในหนองจิก ล่ามือยิงทหารพราน 2 ศพ

แม่ทัพภาคที่ 4 ประกาศกฎอัยการศึก 2 ตำบล ในอ.หนองจิก จ.ปัตตานี รวม 7 วัน เร่งจับมือยิงทหารพราน 2 ศพ ลั่นจะเอาผิดให้ถึงพ่อแม่ ขณะที่ การจับกุมผู้ร่วมขบวนการ 8 คนก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า เป็นตัวจริงทั้งหมด

จากกรณี คนร้ายซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนของกองร้อยทหารพรานที่ 4303 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 43 บริเวณบ้านบางทัน ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้ทหารพรานเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 4 นาย ( อ่านข่าว : ปัตตานี ซุ่มโจมตียิงถล่มทหารชุดลาดตระเวน เสียชีวิต 2 เจ็บ 4 นาย )

พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พ.ต.อ.ขวัญดี ฉิมพลี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงข่าว ออกประกาศควบคุมพื้นที่พิเศษตาม พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ควบคุมอาวุธปืน เรือและยานพาหนะที่ต้องนำมาลงทะเบียนกับหน่วยทหาร และอำเภอที่ตั้งในพื้นที่ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ภายใน 7 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ก.ย. เป็นต้นไป

(จับกุมผู้ต้องสงสัย 8 คน)

ขณะที่ผลการปฏิบัติการของหน่วยกำลังร่วม ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการณ์ทางน้ำจากหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินและชุดปฏิบัติการทางอากาศหน่วยบินเฉพาะกิจอโณทัย กว่า 1,000 นาย กระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นและไล่ล่าคนร้าย สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ 8 คน โดยหนึ่งในนั้นคือ นายฟาริด ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนดูต้นทางและชี้เป้า ( อ่านข่าว : คุมตัวสอบเข้ม 2 แนวร่วมต้องสงสัย ซุ่มยิงทหารพราน ดับ 2 เจ็บ 4 นาย )

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า จากเหตุที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนทุกคนทุกเชื้อชาติเหมือนกันหมด และเหตุกระทำผิดต่อไปนี้ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของลูกหลาน โดยกำลังตั้งทีมกฎหมายเข้ามาดูแล เพราะไม่ให้ลูกหลานไปก่อเหตุรับเงินมาให้ครอบครัว และจะถือเป็นอาชีพก็ไม่ได้ ประเทศไทยไม่ยอมรับ ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนต้องเดือดร้อน ขอให้ผู้ก่อการคิดใหม่ หันเข้ามาให้ความร่วมมือกับรัฐดีกว่า ให้มาเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ใครที่ยังหลบหนีต้องสังวรณ์ และขอยืนยันว่า ผู้ที่จับกุมมาก่อนหน้านี้ 8 คนนี้ถูกตัวแน่นอน

สำหรับพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.บางเขา และ ต.ท่ากำชำ ในอ.หนองจิก เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพราะยังคงมีเจ้าหน้าที่หลายร้อยนายปฏิบัติภารกิจเชิงรุกในการกดดันปิดช่องว่างไม่ให้มีโอกาสเคลื่อนไหว หากพบก็จะดำเนินตามยุทธวิธีทันที จึงต้องขออภัยต่อประชาชนทั่วไปซึ่งอาจจะไม่ได้รับความสะดวกต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพื่อควบคุมพื้นที่ป้องกันไม่ให้คนร้ายก่อเหตุซ้ำอีก และไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นอีก