ยายวัย 85 ชนะคดี! ถูกตำรวจนอกรีต ใช้อำนาจเถื่อนยึดสวนที่ดิน มูลค่ากว่า 5 ล้าน

คุณยายวัย 85 ปีได้สิทธิครอบครองที่ดินของตนเองแล้ว หลังจากถูกอดีตตำรวจสังกัด สภ.ท่าชนะ พร้อมครอบครัว ใช้อำนาจเถื่อน บุกยึดที่ดินสวนยางพารา สานปาล์มน้ำมัน และสวนทุเรียนจำนวนกว่า 30 ไร่ มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2561 นางบุญพา มีเดช หรือพุฒ อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112/103 หมู่ที่ 18 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ได้รุดเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พล.ต.มโนช จันทร์คีรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 และ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมข้อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และขอการคุ้มครองความปลอดภัย หลังถูกนายตำรวจยศร้อยตำรวจโท สังกัด สภ.ท่าชนะ ใช้อำนาจในหน้าที่ และใช้อำนาจเถื่อนพร้อมอาวุธปืนข่มขู่เอาชีวิต

หลังนายตำรวจคนดังกล่าวนำครอบครัวบุกเข้ายึดที่สวนยางพาราสวนทุเรียน สวนปาล์มน้ำมันที่มีอายุกว่า 15 ปี จำนวน 33 ไร่ และต่อมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2561 นายตำรวจคนดังกล่าวได้ยื่นหนังสือลาออกจากทางราชการต่อ พ.ต.อ.ทักษิน ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.ท่าชนะ ซึ่ง พ.ต.อ.ทักษิน ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.ท่าชนะ ได้เซ็นอนุมัติให้ลาออกตามความประสงค์ของนายตำรวจคนดังกล่าว

และในขณะเดียวกัน นางบุญพาได้มอบหมายให้ นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความ ดำเนินการยื่นฟ้องขับไล่ในคดีแพ่ง ต่อศาลจังหวัดไชยา โดยศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีดำ ที่ 49/2561 ศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 23 เม.ย. 2561 แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ศาลจึงนัดสืบพยานฝ่ายโจษก์และฝ่ายจำเลยเมื่อวันที่ 24-25-26 ก.ค. ที่ผ่านมา และนัดฟังคำพิพากษาใน วันที่ 21 ก.ย. 2561

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (21 ก.ย. 2561) นายสมบูรณ์ ทองพัฒน์ ทนายความได้เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดไชยาได้มีการอ่านคำพิพากษาในคดีนี้หลังจากที่คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายได้ต่อสู้ตามขบวนการของกฎหมายมาอย่างยาวนาน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายได้นำเสนอข้อมูลพยานหลักฐานของตนเองอย่างครบถ้วน และวันนี้ถึงเวลาที่ศาลจังหวัดไชยาได้อ่านคำพิพากษาให้ นางบุญพา มีเดช ซึ่งฝ่ายโจษก์ได้รับความเป็นธรรมได้สิทธิในการครองครองที่ดินของตนเองทั้งหมดกลับคืนมาโดยไร้ข้อกังขาใดๆ

หลังจากนี้คงจะต้องรอระยะเวลาตามกฎหมายที่ให้สิทธิผู้แพ้คดียื่นอุทธรณ์เข้ามาภายใน 30 วัน หากไม่การดำเนินการใดๆ ก็เข้าสู่ขบวนการบังคับคดีตามกฎหมาย ซึ่งขบวนการบังคับคดีนั้นเมื่อศาลมีคำสั่งให้ออกไปจากที่ดินพิพาทแล้ว ถ้าไม่ออกก็จะถูกออกหมายจับกุมขังรวมทั้งที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายอีกส่วนหนึ่งด้วย