Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ปส. ร่วม ศรก. แถลงจับกุม 3 ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดของกลางยาบ้า 3.5 ล้านเม็ด และกัญชา ไอซ์ เคตามีน พร้อมทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 755 ล้านบาท

วันที่ 28 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมชุดสืบสวน แถลงผลจับกุมคดียาเสพติดสำคัญ 3 คดี มีผู้ต้องหา 6 คน พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้า กว่า 3.5 ล้านเม็ด กัญชา 161 กิโลกรัม ไอซ์ 5 กิโลกรัม เคตามีน 10 กรัม พร้อมมูลค่าทรัพย์สินรวมยาเสพติดทั้งหมดกว่า 755 ล้านบาท

โดยคดีแรก ตำรวจกองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ปส. จับกุม นายทนงชัย แซ่รี อายุ 25 ปี และนายสมชาย แซ่ย่าง อายุ 26 ปี ทั้ง 2 เป็นชาว จ.น่าน ได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พร้อมยาบ้า จำนวน 24 กระสอบ รวมเป็นจำนวน 3 ล้าน 6 แสนเม็ด ยาไอซ์ 5 กิโลกรัม

หลังตำรวจรับแจ้งจากสายลับว่ามีชาวม้ง จ.น่าน จะลักลอบนำยาเสพติดจากภาคเหนือใส่รถกระบะ เพื่อนำไปส่งยังพื้นที่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงตั้งด่านตรวจสอบ พบรถกระบะต้องสงสัยจอดก่อนถึงด่าน จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นพบของกลางทั้งหมด

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รับสารภาพว่า รับว่าจ้างจากนายทุนจากภาคเหนือ ก่อนสั่งให้นำไปส่งให้ลูกค้าในภาคกลาง ด้วยเงินค่าจ้าง 3 แสนบาท โดยอยู่ระหว่างขยายผลติดตามนายจ้าง

นอกจากนี้ ตำรวจ ปส.4 ร่วมกับทหาร จับกุม นายสมพร หรือนุ่น อุ่นสกุล อายุ 31 ปี พร้อมพวกรวม 3 คน พร้อมยาบ้ากว่า 84,000 เม็ด ยาไอซ์ 108 กรัม ยาเค น้ำหนัก 10.7 กรัม อาวุธปืน 4 กระบอก และกระสุนปืนอีก 95 นัด หลังสืบทราบว่า นายสมพร พร้อมพวกค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และใกล้เคียง พร้อมนัดส่งมอบยาเสพติดกันบริเวณถนนรังสิต-นครนายก อ.ธัญญบุรี ก่อนจะตรวจสอบพบถุงพลาสติกสีดำ ภายในมียาบ้าถูกวางทิ้งไว้ จึงยึดตรวจสอบและขยายผลจนจับกุม นายสมพน และพวกได้ที่ลานจอดรถภายในปั๊มน้ำมัน ใน.อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า รับว่าจ้างจาก นายตู่ ให้นำยาไปส่งในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว นายตู่

ขณะที่อีกคดี ตำรวจและทหารร่วมจับกุม นายปิติพงษ์ เพราพริ้ง อายุ 67 ปี พร้อมกัญชาน้ำหนัก 161 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณริมถนน 4 แยก บ้านห้วยเสียด อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี โดยตำรวจพบรถบรรทุกต้องสงสัย โดยในส่วนบรรทุกเป็นตู้ทึบ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ริมถนน จึงเข้าตรวจสอบ พบ นายปิติพงษ์ มีพิรุธ ก่อนตรวจค้นพบกัญชาซุกซ่อนอยู่ในตู้ทึบ ขณะที่ผู้ต้องหารับว่า กัญชาทั้งหมดเป็นตนเอง ก่อนแจ้งข้อหาและนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พลตำรวจโทสมหมาย กล่าวว่า ภูมิใจในการทำหน้าที่ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สิ่งสำคัญคือได้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดีร่วมกันปฏิบัติงาน ไม่ได้ยึดแนวทางการปราบปราม และบำบัดเพียงอย่างเดียว แต่ยังตัดวงจรการเงินซึ่งถือเป็นต้นทางของเครือข่ายยาเสพติด โดยปฏิบัติการชัยยะสยบไพรี สามารถตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่จำนวน 13 คดี จับกุมผู้ต้องหา 463 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินได้ 1,472 รายการ รวมมูลค่ายาเสพติดและทรัพย์สิน 2 หมื่น 7 พันล้านบาท

โดยจะเห็นว่าจะมีการจับยาเสพติดได้จำนวนมากขึ้นในแต่ละครั้ง ที่อาจทำให้หลายคนมองว่ามีการนำยาเสพติดกลับมาวนซ้ำ ในเรื่องนี้ยืนยันว่ายาเสพติดที่จับได้ในแต่ละคดี จะต้องส่งไปยังคลังยาเสพติด องค์การอาหารและยา (อย.) ภายใน 1 สัปดาห์ และเมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วก็จะนำไปเผาทำลาย ไม่มีใครสามารถเอาออกมาได้ เช่นเดียวกับการที่องค์การเภสัชกรรม จะขอกัญชาไปวิจัยเพื่อรักษาทางการแพทย์ยังต้องให้คณะกรรมการตรวจสอบ และส่งมอบอย่างเข้มงวด

พลตำรวจโทสมหมาย ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า กัญชารักษามะเร็ง ขอให้คนไทยยอมรับได้แล้ว เพราะอยากให้ได้รับการรักษาที่ดี ไม่ใช่ให้ต่างประเทศนำสมุนไพรของไทยนำไปวิจัยและใช้ในการรักษา ขณะที่คนไทยนำไปเผาทิ้งโดยไม่เกิดประโยชน์

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า