ญาติคนหนุ่มใหญ่แฉปมพ่อเลี้ยงยิงตายอ้างขึ้นไปข่มขืนลูกว่า พ่อเลี้ยงอาจจะแค้นหึงหวง จึงวางแผนฆ่า ทางญาติอยากให้ผู้ต้องหามาขอขมาศพและรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากกรณีที่นายอภิชัย เชื่อนุช อายุ 35 ปี ถูกยิงเสียชีวิตที่บ้านหมู่ 3 ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อ วันที่ 18 พ.ย.61 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุนายนัด (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุ 64 ปี เป็นชาว ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ผู้ต้องหา เข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง และให้การอ้างว่าเป็นการป้องกันตัว เนื่องจากผู้ตายปีนเข้ามาในบ้านเพื่อหวังข่มขืนลูกสาว
https://youtube.com/watch?v=pMe9svNjUR4
ล่าสุดวันนี้ (20 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับทางญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งญาติมีการนำศพนายอภิชัย มาบำเพ็ญกุศลศพที่ศาลาภายในสำนักสงฆ์ถ้ำพระหอ ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง โดยพ่อแม่และญาติๆ ให้ข้อมูลที่บอกว่าลูกชายปีนเข้าบ้าน เพื่อหวังข่มขืนลูกสาวเจ้าของบ้านนั้นไม่เป็นความจริงเพราะลูกชายและลูกสาวของเจ้าของบ้านคบหาเป็นแฟนมานานกว่า 7 เดือนแล้ว
ด้านนางอำนาย เชื่อนุช อายุ 61 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายเคยมีภรรยาและมีลูกด้วยกัน 2 คน หลังจากเลิกรากับลูกสะใภ้คนแรก ลูกชายก็ถูกตำรวจจับและต้องโทษเรือนจำที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังจากพ้นโทษลูกชายได้คบหากับ น.ส.แตง อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ แต่ไม่ทราบเช่นกันว่าช่วงที่ลูกชายอาศัยที่บ้านของแฟนสาวเคยมีเรื่องขัดแย้งทะเลาะกับพ่อเลี้ยงของแฟนสาวหรือไม่ แต่เธอเชื่อว่าสาเหตุที่ลูกชายถูกฆ่าเสียชีวิตต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง
โดยก่อนหน้านี้เธอเคยขอให้ลูกชายเลิกกับแฟนสาวคนนี้ เพราะช่วงที่แฟนสาวของลูกชายมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเธอ มีพฤติกรรมแอบเสพยาบ้า ซึ่งนางอำนายจับได้หลายครั้งแล้ว แต่ลูกชายไม่ยอมเลิกกับแฟนสาวคนนี้ เพราะรักแฟนสาวคนนี้มากถึงขั้นทำทุกอย่างให้ ก่อนหน้านี้แฟนสาวเคยท้องนอกมดลูก ซึ่งลูกชายและครอบครัว ก็คอยดูแลตลอดช่วงที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล

นางอำนาย เชื่อนุช มารดาผู้เสียชีวิต
ด้านนายศุภมาศ พิกุลทอง อายุ 23 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ทราบจากเพื่อนๆ ของพี่ชายว่าแฟนสาวของพี่ชายมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่ามีเรื่องเชิงชู้สาวกับพ่อเลี้ยง เขาจึงคิดว่าสาเหตุที่พี่ชายถูกยิงน่าจะเกิดจากความหึงหวงจึงวางแผนฆ่าของพี่ชาย ทั้งนี้วันที่เกิดเหตุตอนแรกพี่ชายกลับมาบ้านพร้อมแฟนแล้วแต่แฟนลืมของไว้เลยกลับไปเอาก็เลยถูกยิง และวันเกิดเหตุทางตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้โทรศัพท์แจ้งว่าพี่ชายประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียชีวิต แต่เมื่อไปรับศพพี่ชายพบว่าพี่ชายมีบาดแผลถูกยิงเสียชีวิต โดยทางตำรวจ อ้างกับครอบครัวว่า ตอนแรกที่แจ้งว่าพี่ชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตนั้น เพราะไม่ต้องการให้ครอบครัวตกใจ
ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาให้การกับตำรวจอ้างว่าที่ยิงพี่ชายเพราะป้องกันตัว แต่หลักฐานศพพบว่าพี่ชายถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้ากลางหลัง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา ที่สำคัญพี่ชายถูกยิงเสียชีวิต ขณะที่นุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ทุกอย่างที่ผู้ต้องหาให้การเป็นเท็จทั้งหมด เขาและครอบครัว จึงไม่มั่นใจในขั้นตอนทำงานของตำรวจ สภ.ห้วยยอด เพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากขอให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงยุติธรรม เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องคดี