คุมตัวฝากขัง! หนุ่มทาสยาบ้า อ้างหลอนทุบเมียดับไม่รู้ตัว รุ่งเช้าทำทีแจ้ง ตร.

รวบสามีโหด ทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนทำทีแจ้งตำรวจ อ้างหลอนยาบ้า จนท.ชันสูตรพบร่องรอยทุบตีทำร้ายร่างกายจนน่วม ตร.ตั้ง 2 ข้อหาหนัก ก่อนนำตัวฝากขัง

วันที่ 26 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านเช่า เลขที่ 184 ซอยเยื้องธนาคารกรุงเทพสาขานครพนม ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เหตุเกิดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุทาง พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดสืบสวน ร่วมตรวจสอบหาสาเหตุ ทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.ฝนทิพย์ เถื่อนอุบล อายุ 27 ปี ตรวจสอบสภาพร่างกาย พบว่า สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตภายในห้องนอน สวมเสื้อยืดสีเทาสลับดำ กางเกงขาสั้นสีดำลายจุด มีร่องรอยถูกทำร้ายทุบตีด้วยของแข็งจนน่วมหลายจุดตามร่างกาย สันนิษฐานว่าถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวน ทราบว่า ปกติผู้ตายทำงานรับจ้าง อาศัยอยู่กับสามี คือ นายสุรสรณ์ อบสิน อายุ 38 ปี ชาว ต.ต้นผึ้ง หมู่ 9 อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งหลังเกิดเหตุทราบว่า สามีได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบ เนื่องจากพบว่าภรรยาเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จนกระทั่งมีการตรวจสอบสภาพร่างกายภรรยาพบว่ามีร่องรอยการถูกทำร้าย จึงได้คุมตัวสามีไปสอบสวน จนกระทั่งมีการสารภาพภายหลังว่า ก่อนเกิดเหตุ ในช่วงกลางคืนวันที่ 25 พฤศจิกายน ได้มีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้สามีโมโห พร้อมมีการทำร้ายทุบตีภรรยา พร้อมทั้งยังอ้างว่าทำไปเพราะเสพยาบ้าจึงมีอาการประสาทหลอน จึงทำร้ายร่างกายภรรยา แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต หลังทะเลาะกันจึงเข้าแยกย้ายนอน พอตื่นขึ้นมาพบว่าภรรยามีอาการผิดปกติ คิดว่าเสียชีวิตจึงแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

ล่าสุด ทางด้าน พ.ต.ท.กฤษดา สุพรรณกูล สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้ทำการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายสุรสรณ์ อบสิน อายุ 38 ปี ชาว ต.ต้นผึ้ง หมู่ 9 อ.พังโคน จ.สกลนคร สามีผู้ตาย ในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาล จ.นครพนม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยทางเจ้าหน้าที่ยังได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ถึงพิษภัยของยาเสพติด หากตกเป็นทาสผลเสียตามมาถึงขั้นสูญเสียชีวิตทรัพย์สิน และยังเป็นภัยสังคม