SHARE

คัดลอกแล้ว

โจ๋ 6 คน ลวงหนุ่มวัย 15 ปี คู่อริเก่า ก่อเหตุแทงจนอาการสาหัส ต้องตัดม้ามทิ้ง 1 ข้าง หวังล้างแค้น ก่อนขี่ จยย. หลบหนีไป จนท.ตรวจสอบวงจรปิด รู้ตัวคนร้ายทั้งหมดแล้ว

วันที่ 25 ธ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Panupan Jitra เพื่อสอบถามรายละเอียดคดีที่โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า “นนทบุรี บางใหญ่หรือโซนใกล้เคียง มีใครพอจะคุ้นๆ หน้า หรือทะเบียนรถไหมครับ คันแรก ดรีม ซุปเปอร์คัพ สีแดง ไม่ติดป้ายทะเบียน (ไฟท้ายแตก) คันสอง wave 110i สีแดงดำ ทะเบียน 7กฐ 814 กทม. วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ก่อเหตุล่อรุ่นน้องในหมู่บ้านไปแทง เวลาโดยประมาน 16.30-17.50 ตอนนี้อาการปลอดภัยแล้ว แล้วยังไม่รู้สึกตัว จึงสอบถามข้อมูลไม่ได้ ช่วยแชร์หน่อยก็ได้ครับ เพื่อหาตัวคนผิดมารับโทษ”

ซึ่งผู้โพสต์เป็นเพื่อนกับผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ นายซัน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ขณะนี้บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เหตุเกิดใกล้เคียงอนามัยบางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวได้พบ นายไกรวิทย์ ดิษวิเศษ อายุ 39 ปี และ นางสังเวียน ดิษวิเศษ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายซัน ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกแทง ทราบว่าหลังเกิดเหตุ น้องซัน ได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน โดยร่างกายมีบาดแผลถูกแทง เลือดอาบ เพื่อนบ้านได้นำตัวส่ง รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ แพทย์บอกว่าถูกแทงที่สีข้างซ้าย มีเลือดอดออกในช่องอกซ้ายและช่องท้อง ม้ามฉีกขาด กะบังลมฉีกขาด ต้องผ่าตัดตัดม้ามทิ้งไป 1 ข้าง จากนั้นได้ส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.บางใหญ่ และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดป้อมยามหน้าหมู่บ้าน ถนนเลียบคลองถนน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บันทึกภาพคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาจำนวน 2 คัน 6 คน ทั้งหมดเป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุ 14-16 ปี รถจักรยานยนต์คันแรกเป็นสีขาว-แดง มีคนร้ายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลืองเป็นผู้ขับขี่ คนซ้อนกลางสวมเสื้อแขนยาวสีขาว คนซ้อนท้ายสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ส่วนรถจักรยานยนต์ของคนร้ายคันที่ 2 เป็นรถสีแดง คนขับสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ คนซ้อนกลางสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีน้ำตาล และคนซ้อนท้ายสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน ขับเข้าประตูด้านหน้าหมู่บ้านผ่านป้อมยามเข้าไป

จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. กล้องวงจรปิดหน้าป้อมยามฝั่งขาออก สามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกมาได้ทั้ง 2 คัน โดยขับประกบรถจักรยานยนต์ของ นายซัน ผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์คันกลาง โดยมีคนร้ายหนึ่งคนขึ้นไปนั่งประกบซ้อนท้ายผู้บาดเจ็บ จากนั้นได้ขับออกจากหน้าหมู่บ้านไปทาง อบต.บางแม่นาง

จากการสอบถาม นางสังเวียน ดิษวิเศษ มารดาผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่าก่อนหน้านี้ วันที่ 16 ธ.ค. เด็กวัยรุ่น 2 คนในกลุ่มคนร้าย 6 คน ได้มาที่บ้านตนและตะโกนเรียกหาลูกชายตน ตนจึงถามามไปว่ามีอะไรกัน เด็กวัยรุ่นได้บอกให้ลูกของตนมาคุยกับเขา ตนจึงเรียกลูกลงมา เขาก็ถามว่า “มึงบอกกูได้หรือยังว่าเพื่อนมึงชื่ออะไร อยู่หมู่บ้านไหน” ลูกตนก็บอกว่ามีเรื่องกันตั้งนานแล้ว โดยก่อนหน้านี้ น้องชายของคนร้ายที่มาที่บ้านมีเรื่องกับลูกตน และเพื่อนของลูกมาช่วยลูกของตนไว้ ตอนนี้น้องชายคนร้ายหายเจ็บแล้วก็จะมาเอาคืน แต่คนร้ายจะไม่เอาคืนลูกตน ถ้าหากบอกคนร้ายไปว่าเพื่อนชื่ออะไร แต่ลูกตนไม่ยอมบอก ตนจึงบอกให้คนร้ายทั้งสองคนไปแจ้งตำรวจ อย่าใช้กฎหมู่แบบนี้ แต่คนร้ายบอกว่าตำรวจไม่ได้ช่วยอะไร เขาต้องการเอาคืน ถ้าลูกตนไม่บอก เขาไม่รับรองชีวิต

ก่อนที่คนร้ายจะโชว์ปืนและขับรถไป ตนเห็นปืนก็กลัวและเรียกสามีออกมา จากนั้นตนจึงคอยห้ามลูกไม่ให้ออกนอกบ้าน แต่วันเกิดเหตุตนไม่อยู่ไปทำงาน ลูกชายอยู่คนเดียว ตนมาทราบเหตุหลังจากเพื่อนบ้านโทรบอกกับสามีตน และสามีโทรมาบอกตน ตนจึงไปที่โรงพยาบาล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ไปแจ้งความ หลังจากลูกชายหายจึงจะดำเนินเรื่องได้ วันนี้ก็มาเอาหลักฐานไปเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด ตนจำหน้าคนที่มาขู่ที่บ้านได้ทั้ง 2 คน ซึ่งวันที่แทงลูกชายตน 2 คนนี้ก็มา

เบื้องต้น อาการ นายซัน ต้องพักอย่างน้อย 30 วัน ทานอาหารไม่ได้ ต้องเจาะซี่โครงเอาเลือดออก หมอบอกว่า แผลถูกแทงเข้าลึก ค่าใช้จ่ายสูง ม้ามฉีกเลือดออกตลอด ตนก็ต้องยอมไม่งั้นลูกจะตาย โดยตัดม้ามทิ้งไปหนึ่งข้าง ค่าใช้จ่ายประมาณ 220,000 บาท โดยโครงการของยูนิเซฟช่วยจ่ายให้ทั้งหมด ตอนนี้อยากให้ตำรวจตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และถ้ามาขอเคลียร์คดีตนคิดว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้ครอบครัวตนก็กลัว หลังจากที่คนร้ายขู่ก็ยังวนเวียนมาตลอด ถ้ายังจับไม่ได้พวกตนก็ยังหวาดกลัวอยู่แบบนี้

จากการสอบถาม นายซัน ผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบว่า ตอนสี่โมงเย็นตนนั่งอยู่หน้าบ้าน กลุ่มคนร้าย 6 คน ถืออาวุธมาเต็มมือ ได้เดินมาหน้าบ้านแล้วถามว่าจะเอาอย่างไร ให้ตนพาไปหาเพื่อนตน ตนจึงรีบล็อกบ้านและไป ตอนแรกคนร้ายบอกว่าจะไม่ทำตน และให้คนร้ายอีกคนซ้อนประกบตน ตนจึงได้ขับรถจักรยานยนต์โดยมีคนร้าย 1 คน ซ้อนท้ายไป เมื่อถึงหน้าอนามัย ต.บางแม่นาง คนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์อีกคัน ใช้มีดแทงตน จากนั้นก็ได้รุมตีและทำลายรถตน เรียกให้ใครช่วยก็ไม่มีคนช่วย ต้องรอให้กลุ่มคนร้ายไปก่อน ตนจึงขับรถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน ก่อนที่เพื่อนบ้านได้พาไปหาหมอ ตนอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายทั้ง 6 คนแล้ว อยู่ระหว่างชี้ตัวคนร้าย โดยมีการติดตามกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุว่าสามารถจับภาพขณะเกิดเหตุได้หรือไม่ และจะทำการออกติดตามตัวกลุ่มคนร้ายทั้ง 6 เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า