รวบเฒ่าหื่นวัย 75 หวังขืนใจ ด.ญ. 11 ขวบ เปลี่ยนชื่อหนีคดีนาน 5 ปี

กองปราบฯ จับเฒ่าหื่นวัย 75 หลังก่อเหตุพยายามข่มขืนเด็กหญิงวัย 11 ที่เป็นญาติกันและหนีคดีจากร้อยเอ็ด มาอยู่ที่นราธิวาส นาน 5 ปี รับสารภาพก่อเหตุจริง พยายามถึง 3 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ บอกตัวเองมีอารมณ์ทางเพศสูง ปัจจุบันมีเมียถึง 4 คน

วันที่ 14 ม.ค. 62 พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. และ พ.ต.ท.ปิยพล แป้นแก้ว สารวัตร กก.ปก.บ. พร้อมกำลังตำรวจกองปราบ ลงพื้นที่ไปจับกุมตัว นายประเสริฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ที่หน้าบ้านพักแห่งหนึ่งใน ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ออกหมายจับเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2557 หลังจากที่ก่อเหตุพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง วัย 11ปี และหนีคดีมาปักหลักอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก นาน 5 ปี โดยยึดอาชีพขายของชำ

คดีนี้ นายประเสริฐถูกแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนเอง โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

หลังถูกจับกุม ตำรวจกองปราบฯ ได้ควบคุมตัวนายประเสริฐ กลับมาสอบสวนที่ศูนย์ประสานงานกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จ.สงขลา ซึ่งนายประเสริฐ ยอมรับสารภาพแต่โดยดี โดยให้การว่า เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่ขณะนั้นอาศัยอยู่ที่ภูมิลำเนาเดิมที่ ต.สามขา อ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด มีเด็กหญิงอายุประมาณ 11 ปี ซึ่งเป็นญาติกัน และมีบ้านพักอยู่ใกล้กันมาหาที่บ้าน และขอเงินไปกินขนมตามประสาเด็ก จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบหลอกเด็กเข้าไปเอาเงินในบ้าน ก่อนพยายามข่มขืนแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากเด็กเล็กเกินไป โดยพยายามก่อเหตุถึง 3 ครั้งจนความแตกถูกแจ้งความจับ ต้องหลบหนีออกจากหมู่บ้านมาปักหลักอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก

นายประเสริฐ ยังบอกอีกว่าเป็นคนที่ค่อนข้างมีอารมณ์ทางเพศสูง ตอนนี้ก็มีเมียทั้งหมด 4 คน และเมื่อมาอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยมุสลิม ตนก็ได้เปลี่ยนชื่อให้คล้ายกับคนในพื้นที่เป็นนายบาแระ ซึ่งอีกนัยหนึ่งก็เพื่อปลอมตัวไม่ให้ใครรู้จักชื่อจริง เพื่อเลี่ยงที่จะถูกจับกุม แต่สุดท้ายก็ไม่รอดแม้จะหนีมาได้ 5 ปี ก็ถูกตำรวจกองปราบฯ ตามจับกุมตัวจนได้

หลังจากนี้ทางตำรวจกองปราบฯ จะส่งตัวกลับไปดำเนินคดี ที่ สภ.โพนทราย จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุต่อไป