ผลตรวจดีเอ็นเอชี้ชัด เป็น “ผอ.อ้อย” ครอบครัวเตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน

ประเด็นคือ – แม่ ผอ.อ้อย ไม่แปลกใจผลพิสูจน์ดีเอ็นเอชี้ชัดเป็นศพลูกสาว เตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศล 3 วัน ขณะที่ผู้กองเหน่งพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีก 2 ข้อหาหนัก จากเดิม 8 ข้อหา

วันที่ 27 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี พ่อและแม่ของ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาติดตามข่าว ผลการตรวจดีเอ็นเอจากชิ้นเนื้อกะโหลกและกระดูกต้นขา ที่ทางนิติวิทยาศาสตร์ของหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้ชี้ชัดแล้วว่า กะโหลกศีรษะ เส้นผม กระดูก รวมทั้งนาฬิกาข้อมือที่พ่อแม่ไปค้นพบที่บริเวณทางขึ้นเนิน 500 ห่างจากฐานอนุพงศ์ บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 ต.ค.60 ที่ผ่านมา เป็นดีเอ็นเอที่ตรงกับ ผอ.อ้อย ซึ่งบรรดาญาติพี่น้องต่างก็พากันดีใจ หลังจากที่พากันออกค้นหา ผอ.อ้อยมานานกว่า 4 เดือนแล้ว

นางแหลม อุ่นอ่อน แม่ของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกแปลกใจหรือตื่นเต้นดีใจที่ผลการพิสูจน์ดีเอ็นเอศพที่พบมีดีเอ็นเอตรงกันกับดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อย เนื่องจากตนและครอบครัว ญาติพี่น้องทุกคนมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าศพที่พบคือศพของ ผอ.อ้อยอย่างแน่นอน ซึ่งหลังจากที่ตนและครอบครัวได้รับศพกลับมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ตนจะนำศพ ผอ.อ้อยมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านของ น.ส.หมายปอง อุ่นอ่อน พี่สาวของ ผอ.อ้อย เนื่องจากว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ ผอ.อ้อยจัดพิธีแต่งงานกับนายวิทยา เกษแก้ว สามี โดยตนกำหนดจะตั้งศพบำเพ็ญกุศล จำนวน 3 วัน จากนั้น จะนำศพ ผอ.อ้อยไปฌาปนกิจที่วัดบ้านซำเม็ง ที่เป็นวัดอยู่ภายในหมู่บ้านต่อไป

ส่วนเรื่องคดีความนั้น ตนมั่นใจว่าหลักฐานแน่นหนาชัดเจนขนาดนี้ ผู้ต้องหาคดีนี้คงไม่สามารถที่จะหลุดรอดไปได้ แต่ที่ตนห่วงอยู่ในขณะนี้ก็คือ ผู้ต้องหาที่เป็นนายทหารยศร้อยเอกอาจจะหลบหนีคดีนี้ เนื่องจากว่าผู้ต้องหารายนี้จนมุมด้วยพยานหลักฐานที่ตนและญาติพี่น้องค้นหาจนเจอครบหมดแล้ว ตนขอความเป็นธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่ด้วย

อย่างไรก็ตามขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งตัว ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ จำนวน 8 ข้อหา ไปฝากขังผลัดที่ 1 ที่ศาล จ.กันทรลักษ์ ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.60 ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดฝากขังผลัดที่ 2 ในวันที่ 30 ต.ค.60 นี้

ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งผลการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของ ผอ.อ้อยแล้ว พนักงานสอบสวนจะได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้กองเหน่ง คือ ข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพ ซึ่งคาดว่าพนักงานสอบสวนและพ่อแม่ของ ผอ.อ้อยจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากว่าเป็นข้อหาที่ร้ายแรงมาก รวมทั้งหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีอีกทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้เดินทางไปที่ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็น สังกัดของ ร้อยเอก ศุภชัย ภาโสหรือผู้กองเหน่ง ผู้ต้องหาในคดีนี้ แต่ทั้งนี้ไม่สามารถเข้าพบได้ เนื่องจาก ผู้กองเหน่ง ยังอยู่ในระหว่างถูกควบคุมตัว

ต่อมาทีมข่าว Workpoint ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดร้อยเอ็ด โดยทราบว่าครอบครัวของผู้กองเหน่ง อยู่ที่บ้านหนองพุก ตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ปรากฏว่าพบตัวบิดาของผู้กองเหน่งอยู่ภายในบ้าน แต่เมื่อทีมข่าวอยากจะขอพูดคุย เกี่ยวกับคดีดังกล่าว แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่สะดวกที่จะพูดคุยกับทางทีมข่าว Workpoint และได้บอกแต่เพียงว่าไม่สามารถที่จะให้สัมภาษณ์ได้ เนื่องจากเขานั่นเป็นข้าราชการต้องขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา

โดยจากการสอบถามเพื่อนบ้านได้ความว่าปกติแล้วที่บ้านหลังนี้จะมีบิดามารดาและภรรยาของผู้กองเหน่งอาศัยอยู่แต่ตัวของผู้กองเหน่งไม่ค่อยเดินทางมาอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ นานครั้งถึงจะมา โดยตัวบิดาทำงานเป็นทหารในสังกัดแห่งหนึ่ง ภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนแม่เป็นเจ้าหน้าที่ อยู่ที่วิทยาลัยอาชีวะแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดด้วย