SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดยุทธการลับคมขวาน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ปะทะกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย คุ้มกันขบวนการทำไม้ บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดของกลางเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง

วันที่ 13 มิ.ย.2562 เฟซบุ๊กส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เผยภาพคลิปเหตุปะทะกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายคุ้มกันขบวนการทำไม้ พร้อมระบุข้อความว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี รับรายงานจากนายสาธิต พันธุมาศ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลาถึงผลการลาดตระเวน Smart Patrol ว่า จากนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้เปิด”ยุทธการลับคมขวาน” มุ่งมั่นปกป้องทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า อย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะพื้นที่ รอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน ที่พบการบุกรุก ตัด โคน และรวมถึงล่าสัตว์ป่า ให้หยุดยั้ง ให้ได้ แต่ต้องไม่มีการสูญเสีย !

ระหว่างวันที่ 9-11 มิ.ย. 2562 เจ้าหน้าที่หน่วย SMART Patrol ขสป.ห้วยศาลา ประกอบด้วย ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 2 จำนวน 7 นาย, ศูนย์พิทักษ์ป่าที่ 3 จำนวน 6 นาย, สายตรวจส่วนกลาง จำนวน 4 นาย รวมทั้งสิ้น จำนวน 17 นาย ผลกลางลาดตระเวน Smart Patrol ที่ผ่านมา เกิดพื้นที่ว่างตามแนวชายแดนที่ยังลาดตระเวนไม่ทั่วถึง จึงได้ปรับแผนการลาดตระเวนในเดือน มิถุนายน 62 ให้เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.62 เวลา 17.00 น. ระหว่าง จนท.เตรียมการตั้งจุดพักแรมได้ยินเสียงเลื่อยโซ่ยนต์ดังจำนวนหลายเครื่อง ดังมาจากบริเวณ ”พลาญจาก” ห่างจากชายแดน ไม่ถึงครึ่งกิโลเมตร เนื่องจากใกล้เวลามืดค่ำ จึงเฝ้าระวังพื้นที่ไว้ จนกระทั่งเช้าของวันที่ 10 มิ.ย. จึงจัดกำลังเดินเท้าอย่างระมัดระวังไปยังจุดเป้าหมาย ถึงเวลาประมาณ 12.30 น จนท.ชุดหน้า จำนวน 3 นาย ตรวจพบ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย (กพช) จำนวน 5 นาย ใน 5 คน นั้น แต่งกายชุดทหารประเทศเพื่อนบ้าน ติดอาวุธ จำนวน 2 นาย คนแรก ถือปืนอาร์ก้า AK 47 อีกคน ถือปืนอาร์ก้าติด M 79 เหลืออีก 3 คน เป็นชายใส่เสื้อสีขาว 2 คน ชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน 1 คน กำลังช่วยกันแปรรูปไม้

เจ้าหน้าที่ได้จัดวางกำลังปิดล้อมเพื่อดำเนินการจับกุมเป็น 3 ชุด เมื่อเข้าปะชิดตัว จนท.ได้แสดงตัว ระยะห่างประมาณ 20 เมตร ปรากฎว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ได้ยิงปืนเข้าใส่เจ้าหน้าที่ (ตามเสียงปืนในคลิป) จึงได้มีการยิงโต้ตอบกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยปืนประจำตัว และในขณะเข้าชาร์จจับกุม กองกำลังไม่ทราบฝ่าย คนที่แต่งกายคล้ายทหารประเทศเพื่อนบ้าน ได้ยิงปืน M79 ใส่ จนท.จำนวน 2 นัด นัดแรกตกห่าง จนท 5 เมตร นัดที่ 2 ห่าง 15 เมตร (M79 ทั้ง 2 ลูกไม่ทำงาน) เหตุการณ์ปะทะครั้งนี้ มีการจัดกำลังวางแผนเพื่อเซฟ จนท.มีการเรียกขาน อัตรากำลัง ตลอดเวลา สืบเนื่องจากในอดีตในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา มีการสูญเสีย มาแล้วครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ปะทะ หน่วย SMART Patrol ส่วนหน้า ยิงปะทะ และขอกำลังเสริม ทั้งหน่วย มีการประสานงานกันได้เป็นอย่างดี สิ้นเสียงปืนประมาณ 5-10 นาที จนท.ชุดหน้าได้เรียกกำลังเสริมที่เหลือ เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง

เมื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง จึงทำการตรวจยึดออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว โดยยังไม่ได้ทำการตรวจสอบไม้ตะเคียนทองที่ถูกลักลอบแปรรูปแต่อย่างใด และในขณะนำเลื่อยโซ่ยนต์ของกลางออกจากที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถยนต์และรถจักรยานยนต์วิ่งเข้ามายังจุดเกิดเหตุ ซึ่ง จนท.ซุ่มดู พบว่า เป็นการเติมหรือเพิ่มกำลังของฝั่ง กพช จนท.หน่วย SMART Patrol จึงต้องถอย เพื่อป้องกันการสูญเสีย จนท.ได้ออกจากที่เกิดเหตุโดยเร็ว ไปยังพื้นที่ปลอดถัย ที่“พลาญพังคื”ระยะทางห่าง “พลาญจาก” 3 กม. เวลาประมาณ 17.00 น แต่ไม่สามารถเดินออกมาได้ในวันเดียว ต้องพักแรมอีกหนึ่งคืน ของคืนวันที่ 10 มิ.ย. 62 ต่อมาช่วงเช้าของวันที่ 11 มิ.ย. 62 จึงได้วิทยุแจ้งเหตุรายงานผู้บังคับบัญชา และเดินทางนำของกลาง เลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 3 เครื่อง มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เดินทางกลับถึง สนง.ขสป.ห้วยศาลา เวลา 19.00 น. และในวันดังกล่าว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ สำนักฯ ได้เข้าไปยังหน่วย ขสป.ห้วยศาลา เพื่อรวบรวม และเพื่อให้กำลังใจ จนท.พร้อมทั้งจัดทำบันทึก เหตุการณ์ รวมถึงของกลางเป็นเครื่องเลือยยนต์ และสอบถามรายละเอียด เพื่อการทำงานในการวางแผนการทำงานเพื่อความปลอดภัย แก่ จนท ทุกนายต่อไป

สำหรับไม้ตะเคียนทองที่ถูกลักลอบแปรรูปเชื่อว่า น่าจะมีการสั่งให้ทำไม้ เนื่องจากชายแดน ไทย-กัมพูชา มีการลักลอบทำไม้ตะเคียนทองเพื่อการก่อสร้างในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และมีการสร้างบ่อนคาสิโน และมีการขยายเมืองมากขึ้น ด้วย ซึ่งขนาดของไม้ มีหลายขนาด เป็นไปตามใบสั่ง ซึ่งจุดทำไม้ ห่างชายแดนกัมพูชาเพียงไม่ถึงครึ่ง กิโลเมตร และมีเส้นทางชักลากไม้ลง ชัดเจนว่าไม้ เมื่อทำเสร็จแล้วจะขน ลงไปตามเส้นทาง เข้าประเทศเพื่อนบ้านแน่นอน เมื่อ จนท เข้าตรวจสอบ พบไม้จำนวนหลายแผน ที่ถูกแปรรูปแล้ว และ ยังพบถูกโคนล้มไว้อีกด้วย ซึ่งขณะที่ตรวจสอบ ได้ยินเสียง คนที่มีมากกว่า 5 คนที่เห็นซึ่งเมื่อเห็นไม้ที่ถูกแปรรูปแล้วนั้น ต้องมีคนจำนวนมาก การถอนกำลังของหน่วย SMART Patrol ถือว่าทำถูกต้องและ ลดความเสี่ยงได้ดีที่สุด เพราะ จนท ทุกนาย มีครอบครัวเช่นกัน  รายละเอียดจะรายงานให้ทราบผลต่อไป

https://www.facebook.com/prhotnews02/videos/2135729629870789/

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า