หนุ่มเลือดร้อน บุกทวงหนี้เลขาสาว ก่อนชักปืนยิงดับคาโรงงานย่านบางพลี

หนุ่มวัย 35 ปีดื่มเหล้าย้อมใจ หลังสาวไม่เล่นด้วย ก่อนหาเรื่องบุกทวงหนี้เงินเเสน แต่ทวงไม่สำเร็จ ชักปืนยิงดับคาโรงงาน ก่อนตำรวจตามจับได้ทันควัน

วันที่ 17 มิ.ย. 2562 ผู้วื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (16 มิ.ย. 62) เวลา 19.30 น. ร.ต.อ.ณธรรศ  โฉมยา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ รับแจ้งมีหญิงถูกยิงเสียชีวิตภายในอาคารโรงงานฝ่ายผลิตของบริษัทแห่งหนึ่ง ภายในซอยบางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลีงเกิดเหตุจึงเดินทางเข้าตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุภายในอาคารโรงงานพบร่าง น.ส.สุพรรษา อายุ 30 ปี เลขาผู้จัดการของบริษัทดังกล่าวนอนเสียชีวิตอยู่ที่พื้นของโรงงานในสภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณกลางหน้าผาก  จากการสอบถามทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายเจษฎา อายุ 35 ปี อดีตพนักงานของโรงงานดังกล่าว หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ หลบหนีไปทางปากซอยมุ่งหน้าไปทางถนนเทพารักษ์

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้า น.ส.สุพรรษา ผู้ตาย และนายเจษฎา ผู้ก่อเหตุ เคยทำงานที่เดียวกัน ซึ่ง นายเจษฎา  มาติดพันผู้ตาย ก่อนจะให้ น.ส.สุพรรษา ยืมเงินไปกว่าหนึ่งแสนบาท ต่อมา น.ส.สุพรรษา มารู้ว่า นายเจษฎา มีครอบครัวอยู่แล้วจึงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ นายเจษฎา พยายามงอขอคืนดี แต่ น.ส.สุพรรษา ไม่เล่นด้วยและเมื่อปีที่ผ่านมา นายเจษฎา เคยขู่จะฆ่า น.ส.สุพรรษา มาแล้วครั้งหนึ่ง แถมยังบอกว่าเคยยิงคนตายมาแล้วไม่กลัวใครทั้งนั้น

หลังจากที่ น.ส.สุพรรษา ไม่เล่นด้วยแล้ว นายเจษฎา จึงหาเรื่องทวงเงินที่ผู้ตายยืมไป แต่ น.ส.สุพรรษา ยังไม่มีเงินใช้คืนให้ และเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ นายเจษฎาได้ลาออกจากงาน จนกระทั่งเมื่อช่วงหัวค่ำของวันนี้นายเจษฎาได้ขี่รถจักรยายนต์มาหาน.ส.สุพรรษา ผู้ตายที่บริษัท ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ผู้ตายกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวจะกลับบ้านพัก นายเจษฎาก็เดินสวนเข้ามาในบริษัท พร้อมทั้งทวงถามเงินที่ยืมไป น.ส.สุพรรษาตอบว่าเงินยังไม่พร้อมที่จะคืนให้ นายเจษฎาจึงลงมือก่อเหตุยิง น.ส. สุพรรษา 1 นัด ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าโรงงานหลบหนีไป

ต่อมา พ.ต.ท.รักศักดิ์  เมฆจินดา รอง ผกก.สส. ได้นำกำลังเจ้าหน้าชุดสืบสวนออกติดตามผู้ก่อเหตุและสามารถจับกุมตัวนายเจษฎา ผู้ก่อเหตุได้ในขณะหลบหนีเข้าไปที่ห้องพัก หลังตลาดบางพลีซิตี้ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเก็บเสื้อผ้าเตรียมที่จะหลบหนี พร้อมทั้งยึดอาวุธปืน ที่ใช้ก่อเหตุได้จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีกจำนวนหลายนัด รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่เหตุอันควร” ก่อนควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป