จากกรณีคดีทะเลาะวิวาทของกลุ่มวินจยย.ปากซอยสุขุมวิท 103 สองวินรถจยย.ยกพวกทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้ถูกลูกหลงเสียชีวิต 1 รายคือ นายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (17 มิ.ย.62) พันตำรวจเอกธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกนับสิบราย สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 7 หมายนั้น เป็นกลุ่มวินรถจยย.อุดมสุข 1 ซึ่งเป็นฝั่งจุดชนวนทะเลาะวิวาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะออกหมายจับวินจยย.ทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ ใครที่ปรากฎตัวในคลิปจะถูกออกหมายจับทั้งหมด หากใครบริสุทธิ์ใจก็มามารถมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ได้ ส่วนกรณีมีคลิปผู้เสียชีวิตร่วมรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่นนั้น ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาถูกออกหมายจับเบื้องต้นแล้วจำนวน 7 คน ประกอบด้วย
- นายรังสรรค์ ศรไชยากร
- นายวันชัย มงคลเข็ม
- นายปิยะ พวงเกษร
- นายประมุข วิเชียรดิลกกุล
- นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์
- นายมานพ มิ่งมงคล และ
- นายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ
โดยทั้งหมดถูกแจ้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ผู้ต้องหาคนที่ 4-7 ถูกแจ้งข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปเพิ่มเติมเข้ามาด้วย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายจีระพงษ์ หรือ เบส วิบูลย์รัชกิจ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นายพันธ์ศักดิ์ พละทรัพย์ และนายมานพ มิ่งมงคล รวมมีผู้ต้องหาในคดีนี้ถูกจับกุมไปแล้ว 6 ราย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับที่ออกไป 5 หมาย ซึ่งนายเจริญนั้นถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไปก่อนหน้าที่จะออกหมาย ทำให้ตอนนี้เหลือนายวันชัยและนายประมุข ที่ยังหลบหนีอยู่ 2 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายประมุขนั้น ได้ส่งทนายมาพบเจ้าหน้าที่แล้ว เนื่องจากขณะนี้นายประมุขยังรักษาตัวอยู่ เพราะมีแผลบาดเจ็บจากการทะเลาะวิวาท สำหรับนายวันชัยนั้นยังไม่มีวี่แววจะมอบตัวแต่อย่างใด และอยู่ระหว่างการหลบหนีการจับกุม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว นายปิยะ พวงเกษร นายรังสรรค์ ศรไชยากร และนายเจริญ เจริญผล ไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนง เพื่อฝากขังชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่มีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ประกอบกับยังมีพยานหลักฐานที่ต้องสอบสวนต่อ เกรงว่าอาจเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ ซึ่งศาลได้รับคำขอของพนักงานสอบสวนไว้ พิจารณาแล้ว จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนต่างให้การปฏิเสธข้อหาทั้งหมด
ต่อมาญาติ นายรังสรรค์ หรือเอ็กซ์ ศรไชยากร ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นกรมธรรม์ประกันภัยมูลค่า 670,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาโดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ส่วนภรรยานายเจริญ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 100,000 บาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายปิยะ พวงเกษร ผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 1 รายที่ถูกควบคุมตัวได้พร้อมกับผู้ต้องหาอีก 2 คนนั้น ทางพนักงานสอบสวน นำตัวนายปิยะไปส่งพนักงานอัยการฟ้องศาลจังหวัดพระโขนงแล้ว ในข้อหาเสพฯ เมทเเอมเฟตามีน
โดยนายปิยะให้การรับสารภาพ ศาลจึงพิพากษาให้จำคุก 6 เดือนปรับ 1 หมื่นบาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษคงเหลือจำคุก 3 เดือนปรับ 5 พันบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี โดยภายหลังมีคำพิพากษาเเล้วพนักงานสอบสวนได้อายัดตัวนายปิยะไปควบตัวที่ สน.เพื่อสอบสวน ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จากเหตุการณ์ปะทะกันที่ย่านอุดมสุขต่อโดยมีอำนาจคุมตัวไว้อีก 48 ชั่วโมง