รวบ 4 โจ๋ควงมีดปล้นเหยื่อกลางปั๊มน้ำมัน อ้างเมาอยากได้ทรัพย์สิน

4 โจ๋ ที่เข้าทำร้ายร่างกายใช้มีด และอาวุธเข้าข่มขู่ ตบหัวทิ่ม ก่อนลักทรัยพ์กลางปั๊มน้ำมัน ปล้นเหล้าครึ่งกลม เข้ามอบตัวแล้ว เผยก่อนเกิดเหตุกินเบียร์จนเมา เลยพากันมาขี่รถเล่นและก่อเหตุ พอเห็นกล้องวงจรปิดจับหน้าชัดเลยเข้ามอบตัว

วันที่ 22 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา นายธีระศักดิ์ อายุ 20 ปี และ นายตั้ม (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทัพย์ผู้เสียหายหายจำนวน 2 ราย ภายในปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซอยสะแกงาม 14 ย่านพระราม 2  เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 18 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา ได้เข้ามอบตัวแล้วที่สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ พร้อมนำของกลางเป็นอาวุธปืนบีบีกัน,มีดหัวตัดความยาว 60 ซม., เสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์สีน้ำเงินดำ เจ้าหน้าที่จึงได้สอบสวนและขยายผลจับกุม นายชิงชัย อายุ20ปี และนายสิทธิศักดิ์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางที่เหลือ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลแสมดำ

สืบเนื่องจากช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา นายวรพงษ์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี และ นายมนตรี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความกับ ตำรวจนครบาลแสมดำว่า ถูกคนร้ายเป็นชายจำนวน 4 คน ปล้นทรัพย์สินและทำร้ายร้างกาย ได้กระเป๋าพร้อมเงิน600 บาท โทรศัพท์มือถือ ขณะที่กำลังนั่งคร่อมรถจักรยานยนต์พูดคุยกันบริเวณหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว

ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุ ใช้อาวุธปืนปลอมและมีด เข้าปล้นทรัพย์สินผู้เสียหายจำนวน 2 ราย ภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว ตามที่ปรากฏในกล้องวงจรปิดที่ผู้เสียหายนำไปแชร์อยู่ในโลกออนไลน์

นายธีระศักดิ์ หนึ่งในสี่ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนกับเพื่อนเป็นพนักงานประกอบเฟอร์นิเจอร์แต่คนละโรงงานกัน โดยก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มเบียร์กันไปจำนวน 6 ขวดที่บริเวณใกล้ตลาดสะแกงาม เมื่อเมาได้ชวนกันออกไปขี่รถเล่น ก่อนจะไปแวะเติมน้ำมันในปั๊มน้ำมันดังกล่าว ได้เห็นกลุ่มผู้เสียหายนั่งคร่อมรถพูดคุยกัน ด้วยความเมาและอยากได้ทรัพย์สินของกลุ่มผู้เสียหายขึ้นมา จึงลงไปทำร้ายผู้เสียหายและใช้ปืนบีบีกันตบผู้เสียหายและชักมีดหัวตัดออกมาขู่ โดยมีนายสิทธิศักดิ์ ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาอีกคนลงไปช่วยกระทืบผู้เสียหายและค้นทรัพย์สินไป โดยตนได้พระเครื่องและเหล้าที่เหลือครึ่งกลมของผู้เสียหาย แต่นายสิทธิศักดิ์ได้ เงินสดพร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำนอนคดี อย่างไรก็ตามจะได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาเดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป