SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 เผยคดีปล้นร้านทองเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง 80 เปอร์เซ็นต์ คนร้ายมี 17-20 คน คาด 2 วัน รู้ผล รูปแบบเดียวกันกับเหตุปล้นเต้นรถนาทวีเมื่อปี 60

วันที่ 26 ส.ค.2562 ความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกปล้นร้านทองกลางตลาดนาทวี  อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายกวาดทองคำและเครื่องเพชร ทองคำแทงอีกบางส่วน รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 85 ล้านบาท ล่าสุดพล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่สภ.นาทวี ว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทั้งในจ.สงขลาและจ.ปัตตานี ได้ดูพื้นที่เกิดเหตุและลักษณะการก่อเหตุของคนร้ายให้น้ำหนักเชื่อมโยงว่าเกี่ยวกับคดีความมั่นคงถึง 80 เปอร์เซ็น ส่วนอีก20 เปอร์เซ็นต์ ต้องรอผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงจะฟันธงและสรุปได้

พล.ต.ท.รณณศิลป์ กล่าวว่า เหตุผลที่ให้น้ำหนักเกี่ยวข้องกับความมั่นคง เพราะดูจากพฤติกรรมในการก่อเหตุของคนร้าย เมื่อมองย้อนหลังกลับไป เหมือนกับคดีปล้นเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ ในอ.นาทวี เมื่อวันที่16 สิงหาคม 2560 คือ มีการปล้นรถมาก่อน แล้วนำมาใช้ก่อเหตุ โดยคนร้ายที่ลงมือปล้นร้านทองจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและคำให้การของพยานมีอย่างน้อย 17-20 คน และมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นอย่างดี ทั้งคนที่ทำหน้าที่ปล้นรถ ส่วนหนึ่งก็คุมคนขับรถเอาไว้ กลุ่มหนึ่งก็เอารถมาส่งให้กับทีมปล้นร้านทอง โดยในส่วนของทีมปล้นน่าจะมี12 คน บางคนแต่งกายเป็นผู้หญิงแฟงตัวเป็นลูกค้ามาเคาะประตูร้านทองเพื่อให้เปิดประตูเพราะต้องเปิดสวิทจากด้านในและดันประตูเอาไว้ จากนั้นคนร้ายที่ถืออาวุธปืนสงครามก็บุกเข้าไปในร้าน

ผบช.ภาค 9 กล่าวถึงกรณีคนร้ายที่สวมชุดคล้ายทหารว่า คนร้ายไม่ได้แต่งกายด้วยชุดทหาร อาจจะมีบางคนที่สวมเสื้อลายพรางและนุ่งกางเกงยีนส์ ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารเหมือนกับที่ไปก่อเหตุสร้างความไม่สงบ ย้ำว่า คดีนี้ขอเวลา 2 วันก็น่าจะมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวคนร้าย เพราะต้องรอผลการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนพยาน เนื่องจุดเกิดเหตุมีหลายจุดทั้งจุดที่ปล้นรถที่อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จุดที่คนร้ายนัดรวมตัวรับคนขึ้นรถมาปล้น ซึ่งต้องตรวจทุกจุดอย่างละเอียดโดยเฉพาะรถตู้คันที่ใช้ก่อเหตุซึ่งได้ส่งไปตรวจเก็บลายนิ้วแฝงและร่องรอยของคนร้ายที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 เส้นทางในการก่อเหตุของคนร้ายพบว่าขับรถมาจากตามเส้นทางแยกดอนยาง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังก่อเหตุเสร็จก็หนีนำรถไปทิ้งไว้ในพื้นที่สวนยางหมู่4 ต.ท่าประดู่ อ.นาทวี ก่อนที่จะแยกย้ายกันหลบหนี พร้อมทองที่ขโมยไป โดยพบว่าในคดีนี้นอกจากรถตู้ที่ปล้นมาแล้ว ยังมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้จำนวน3 คัน เป็นรถรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 1828 ปัตตานี ซึ่งถูกขโมยมาเช่นกันนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณเดียวกับที่ทิ้งรถตู้ ซึ่งอาจจะขับมารับคนร้ายแต่รถเกิดเสียจึงทิ้งเอาไว้

ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กค 1827 ปัตตานี และรถจักรยานยนต์ซูซูกิ ขทอ 640 ปัตตานี ที่คนร้ายจี้เอาไปจากใต้ถุนบ้านเลขที่ 13/1 หมู่11 ต.นาทวี อ.นาทวี ซึ่งยังไม่พบรถทั้งสองคันแต่ได้แจ้งเตือนให้เป็นรถอันตรายแล้ว ส่วนของรายละเอียดอื่นของคดีทั้งกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่มีการตั้งข้อสังเกตุว่าอาจจะมีคนในร่วมด้วยหรือไม่หรืออดีตลูกจ้าง เพราะคนร้ายรู้ทุกอย่างภายในร้านเป็นอย่างดีและลงมืออย่างง่ายดาย ในเรื่องนี้ก็ต้องสอบสวนเช่นกันโดยเจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ที่เข้าข่ายต้องสงสัยมาสอบสวนทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง เหตุเกิดที่นาทวี เปลี่ยนจากปล้นรถทำคาร์บอมบ์เป็นปล้นทอง 85 ล้าน?

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า