SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 12 ก.ย. ร.ต.อ.กิตติพงษ์ บุญเศรษฐ รอง สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในหมู่บ้านเพชรเกษม 2 ซอย 2 ถนนเพชรเกษม ซอย 55/2 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ สูง 2 ชั้น จากการตรวจสอบบริเวณห้องโถงชั้นล่าง พบศพ นางวาสนา จันตะ อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านอาชีพค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาล มีบาดแผลถูกทำร้ายร่างด้วยทุบตีด้วยของแข็งทั่วร่างกาย นอกจากนี้ยังมีบาดแผลถูกแทงและฟันด้วยอาวุธมีด ส่วนที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้จนข้าวของกระจัดกระจายเลือดนองพื้น ใกล้กันกับศพพบแผงผับสำหรับขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเปื้อนเลือดของผู้ตายตกอยู่ 1 ชุด มีดพับเปื้อนเลือดความยาวประมาณ 4 นิ้ว ตกอยู่ 1 เล่ม และสากกะเบือหักเปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นางสุทธิมา จันตะ น้องสาวผู้ตายซึ่งเดินทางมาจุดเกิดเหตุ ให้การว่า บ้านหลังนี้พี่สาวตนพักอยู่กับสามีคือ นายสมบูรณ์ ทูลธรรมวรกุณ อายุ 54 ปี เพียง 2 คน แต่ก่อนตนก็เคยอยู่บ้านหลังนี้กับพี่สาวและพี่เขยมานานนับสิบปี กระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่แล้วเพิ่งย้ายออกไป ผู้ตายกับสามีมีอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่ผ่านมาทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยประกอบกับไม่มีบุตรด้วยกัน ทำให้ทั้งสองอยู่กันแบบเลิกราแต่ไม่ได้หย่าร้าง มีการแบ่งสมบัติกันทั้งบ้าน รถยนต์ และทรัพย์สินต่างๆ ที่นำไปฝากไว้ในตู้เซฟธนาคาร โดยทีแรกทรัพย์สินในตู้เซฟนั้นทางพี่เขยได้ยกให้พี่สาวตนทั้งหมด จนมาระยะหลังๆ ทราบว่าพี่เขยจะขอทวงทรัพย์สินบางส่วนในตู้เซฟคืน จนเกิดการขัดแย้งกันรุนแรง มีญาติฝ่ายพี่เขยเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการขู่ฆ่าจะทำร้ายร่างกายพี่สาวตนและมีการแจ้งความดำเนินคดีกันเกิดขึ้น ทำให้ตนต้องตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ข้างนอกเพราะไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับเรื่องครอบครัว

“ก่อนที่ตนจะย้ายออกไปตนได้ฝากฝังกับเพื่อนบ้านและรปภ.ของหมู่บ้านเอาไว้ ว่า หากมีการทะเลาะเบาะแว้งกันเกิดขึ้นที่บ้านขอให้โทรศัพท์ไปบอกตนด้วย เนื่องจากเกรงว่า นางวาสนา พี่สาวจะได้รับอันตราย จนกระทั่งบ่ายวันนี้ มีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกตน ช่วงก่อนเกิดเหตุพบ นายทรงธรรม ทูลธรรมวรกุณ พี่ชายนายสมบูรณ์ สามีของ นางวาสนา ขับรถยนต์มาที่บ้าน จากนั้นได้ยินเสียงทะเลาะ นางวาสนา ทะเลาะกับนายทรงธรรม ดังลั่น ก่อนที่ นางวาสนา จะส่งเสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย สักพัก นายทรงธรรม ก็ขับรถยนต์ออกจากบ้านไปด้วยความเร่งรีบ จนมีผู้เข้าไปพบว่านางวาสนา ถูกฆ่าตายไปแล้ว” นางสุทธิมา กล่าว

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันเดียวกัน นายทรงธรรม ผู้ก่อเหตุได้เดินทางไปที่ สน.เพชรเกษม เพื่อมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อม ให้การว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าน้องสะใภ้จริง โดยตนมีอาชีพขายข้าวมันไก่อยู่ที่ จ.สมุทรสาคร ก่อนหน้านี้ตนมีทรัพย์สินเป็นนาฬิกา ทองรูปพรรณ และเครื่องเพชร มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่สะสมมาตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ต่อมาทราบว่า นายสมบูรณ์ น้องชายตนซึ่งเป็นสามีผู้ตายมีตู้เซฟอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง ตนจึงนำทรัพย์สินฝากไว้ในตู้เซฟของน้องชาย กระทั่งมารู้ภายหลังว่าน้องชายกับ นางวาสนา เลิกราโดยไม่มีการหย่าร้าง แต่กลับมอบกรรมสิทธิ์ตู้เซฟและทรัพย์สินทั้งหมดในตู้เซฟให้เป็นของฝ่ายภรรยา

“ตนทราบดังนั้นจึงพยายามทวงทรัพย์สินที่เคยฝากไว้คืนจาก นางวาสนา ตั้งแต่ช่วงปี 2560 กลับถูก นางวาสนา บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เรื่องการยักยอกทรัพย์ เป็นคดีความกันมาถึงทุกวันนี้ กระทั่งวันนี้เข้าไปทวงทรัพย์สินที่บ้านอีกและเห็น นางวาสนา นำนาฬิกาโรเล็กซ์ ซึ่งเป็นของตนมาใส่ทำให้เกิดทะเลาะต่างฝ่ายต่างทำร้ายกัน โดยตนนั้นถูกนางวาสนา ใช้แผงขายสลากกินแบ่งและสากกระเบือตี ประกอบกับ นางวาสนา พยายามหยิบมีดทำครัวพุ่งเข้าหาตน ตนจึงพลั้งมือชักมีดพับที่ติดตัวไว้จากกระเป๋ากางเกงด้านหลังแทง นางวาสนา ตามร่างกายไปหลายแห่ง แล้วตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ” นายทรงธรรม กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.วุฒิชัย กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายทรงธรรม ในเบื้องต้น พอทราบพฤติการณ์การก่อเหตุแล้ว หลังจากนี้ตนจะนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อยืนยันคำรับสารภาพ ก่อนแจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และคุมตัวมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า