วันที่ 19 ก.ย. พ.ต.อ. อัครเดช เกตุเอี่ยม ผกก.2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นำกำลังจับกุมนายสำพันธุ์ กระจ่าง อายุ 40 ปี และนายอภิลักษณ์ ยิ่งยวด อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1442 /2562 และ 1443 /2562 ลงวันที่ 18 ก.ย. ในฐานความผิด “กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล,กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็ก นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล,โดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร”
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปคม. ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี ว่าลูกถูกครูฝ่ายปกครองล่วงละเมิดทางเพศและกระทำชำเรา จึงรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนจัดทีมสืบสวนวิเคราะห์คดีโดยได้ประสานความร่วมมือกับนักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเข้าช่วยเหลือเยียวยาและคุ้มครองเหยื่อ พร้อมสัมภาษณ์เหยื่อเพื่อคัดกรองข้อมูล
จากนั้นลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งพบว่านายสำพันธุ์ ซึ่งเป็นครูฝ่ายปกครองโรงเรียนดังกล่าวมีพฤติกรรมกระทำชำเราเด็กนักเรียนจริง โดยร่วมกับนายอภิลักษณ์ เพื่อนสนิท จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ กระทั่งจับกุมนายสำพันธุ์ ได้ที่บริเวณห้องพักย่านทุ่งสองห้อง และจับกุม นายอภิลักษณ์ ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านหลักสี่
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยนายสำพันธุ์ รับว่าเป็น ครูในสถาบันการศึกษามากว่า 13 ปี และได้เลิกรากับภรรยาเก่า จึงมักมาพักอาศัยอยู่ภายในสถานศึกษาเป็นประจำทำให้มีความสนิทสนมกับนักเรียนหลายคน และเนื่องจากอยู่ฝ่ายปกครอง มีความใกล้ชิดเหยื่อเนื่องจากทางครอบครัวได้ฝากให้ช่วยดูแลบุตรหลาน จึงได้อาศัยความไว้วางใจล่อลวงเหยื่อไปกระทำชำเราหลายครั้งภายห้องพักต่างๆ หลายสถานที่ โดยทำมาหลายเดือน
นอกจากนี้ยังได้แนะนำเหยื่อให้รู้จักกับนายอภิลักษณ์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าและเป็นเจ้าของร้านอาหารในละแวกโรงเรียน และพวกอีก 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทสนมเที่ยวเตร่ด้วยกัน จนทำให้เหยื่อถูกนายอภิลักษณ์และพวกล่วงละเมิดอีกหลายครั้งด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งในส่วนของนายสำพันธุ์ เจ้าที่ตำรวจจะประสานไปยังต้นสังกัดเพื่อให้พิจารณาตามระเบียบขั้นตอน เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับทางผู้บริหารโรงเรียนดังกล่าวเตรียมที่จะเสนอเพื่อให้ออกจากราชการ นอกจากนี้เตรียมขยายผลผู้มีส่วนร่วมอีกสามรายซึ่งเป็นนักธุรกิจชื่อดังตลอดจนเซียนพระชื่อดังแห่งย่านงามวงศ์วาน ซึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มออนไลน์
