https://www.facebook.com/WorkpointNews/videos/681465298924127/
กล้องวงจรปิดเปิดภาพกลุ่มชายฉกรรจ์บุกร้านยางรถยนต์แห่งหนึ่ง จ.นครศรีธรรมราช อ้างตัวเป็น จนท.ขู่ยัดคดี รีดเงิน 2 หมื่น ภรรยาเจ้าของร้านต้องรีบไปจำนำทองมาให้ อ้างต้องแบ่งกัน 7 คน ล่าสุด ผกก.สภ. เมืองนครศรีธรรมราชเผย จากการตรวจสอบพบเป็นเจ้าหน้าที่จริง ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
จากกรณี สองสามีภรรยา ร้านจำหน่ายยางรถยนต์ ล้อแม๊คและตั้งศูนย์ถ่วงล้อ แห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช ถูกชายฉกรรจ์อย่างน้อย 5 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จากตำรวจภาค 8 เป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และหน่วยปราบปรามการโจรกรรมรถ เข้าข่มขู่จะยัดคดีและเรียกเงินจำนวน 2 หมื่นบาทเพื่อให้จบเรื่อง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ก่อนนายภานุวัชร อายุ 35 ปี และนางสาวซินดี้ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา
ล่าสุด ช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. 2562 พันตำรวจเอกเทเวศร์ ปลื้มสุทธิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าหลังจากตรวจสอบข้อมูลจากภาพพบว่ากลุ่มชายดังกล่าวนั้นเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งมาจากนอกพื้นที่ ได้เข้าไปยังร้านของผู้เสียหายจริง ซึ่งได้เรียกตัวเจ้าหน้าที่ชุดนี้มาสอบสวนแล้ว ในประเด็นของการใช้อำนาจหน้าที่ รวมทั้งข้อกล่าวหาในการเรียกรับเงินซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดนี้ให้การปฏิเสธ ซึ่งขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนรายบุคคล
ด้านพลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยให้ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดและรายงานไปให้ต้นสังกัดทราบ หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการอย่างไม่มีข้อยกเว้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2562 ผ่านมา นายภานุวัชร อายุ 35 ปี และนางสาวซินดี้ อายุ 25 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของร้านจำหน่ายยางรถยนต์ ล้อแม๊คและตั้งศูนย์ถ่วงล้อ แห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว พร้อมทั้งเข้าแจ้งความกับสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ว่าได้ถูกชายฉกรรจ์อย่างน้อย 5 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่จาก ตำรวจภูธรภาค 8 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และจากหน่วยปราบปรามการโจรกรรมรถ เข้าข่มขู่จะยัดคดีและเรียกเงินจำนวน 2 หมื่นบาทเพื่อให้จบเรื่อง โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน
ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายฉกรรจ์แต่งกายคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบใช้รถยนต์ ป้ายแดงเข้ามาจอดในร้าน จากนั้นได้ลงจากรถตรงเข้าไปในร้านทันที ส่วนนอกร้านพบว่ามีรถยนต์กระบะ สีขาวไม่ติดแผนป้ายทะเบียนจอดคุมเชิง หลังจากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวว่าเป็น ตำรวจภาค 8 เป็น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และอีกคนอ้างว่าเป็นตำรวจปราบปรามการโจรกรรมรถ ทุกคนไม่ได้แสดงหมายค้น หรือบัตรประจำตัวใดๆได้เข้าข่มขู่นายภานุวัชร อ้างว่ามีรถที่โจรกรรมเข้ามาอยู่ที่นี่ และนายภาณุวัชรเกี่ยวข้องกับการโจรกรรมรถ รวมทั้งมีการบังคับให้ตรวจปัสสาวะหาสารสารเสพติด พร้อมทั้งข่มขู่ว่าหากไม่ต้องการคดีให้จ่ายเงินจำนวน 2 หมื่นบาทเพื่อยุติเรื่องทั้งหมด ให้นางสาวซินดี้ นำทองไปจำนำได้เงิน 18,000 บาท จากนั้นคนที่อ้างตัวเป็นตำรวจได้ให้นางสาวซินดี้ นำเงินไปจ่ายในรถ ก่อนจะขับหนีออกไป