SHARE

คัดลอกแล้ว

พรุ่งนี้จะเริ่มเข้าศักราชใหม่กันแล้วในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมากมายในสังคมไทย โดยเฉพาะคดีฆาตกรรมที่นับวันจะทวีความรุนแรงและสะเทือนขวัญมากยิ่งขึ้น บางคดีมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี ทีมข่าวเวิร์คพอยท์หยิบยก 6 คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในปี 2562 มาให้อ่านกัน 

เริ่มกันที่เหตุคนร้ายยิงถล่มจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ยะลา คร่าชีวิตไป 15 ราย เหตุเกิดเมื่อ 5 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 23.20 น. เหตุการรณ์ครั้งนี้นับเป็นเป็นเหตุรุนแรงที่สุดในพื้นที่ปลายด้ามขวานในรอบ 15 ปี ล่าสุดวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมได้อีก 6 ราย รวมของเดิมที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว ก็เป็น 10 ราย ที่สามารถระบุตัวได้อย่างชัดเจน และยังคงมีการสืบสวนสอบสวนรวมพยานหลักฐานออกหมายจับเพิ่มเติมเนื่องจากเชื่อว่าในการปฎิบัติการบริเวณป้อม ชรบ.นั้น มีกลุ่มคนร้ายที่ปฎิบัติการมากกว่า 10 คน รวมทั้งกลุ่มคนร้ายที่ให้การสนับสนุนในการก่อเหตุ โดย 6 ราย ที่มีการออกหมายจับ ได้แก่ 1.นายอิสตีซาน กาซอ, 2.นายพรุกอน บือราเฮง, 3.นายอัชฮา ตืองะ, 4.นายฮีลมี ยีเลาะ, 5.นายอุสมาน นิแว และ 6.นายมะอีซอ เจ๊ะโซ๊

คดีที่ 2 สมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ เป็นคดีที่ช็อกสังคมช่วงปลายปี เมื่อแม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ถูกฆาตกรรมเปลือยทิ้งศพไว้ในบ้านพัก ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสืบหาตัวคนร้ายจนทราบว่าฆาตกรโหดรายนี้เป็นคือ สมคิด พ่วมพวง ฆาตกรต่อเนื่องที่ลงมือโหดมาแล้ว 5 ศพเมื่อปี 2548 ถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต แต่สมคิดเป็นนักโทษชั้นดีจึงได้ลดหย่อนโทษทำให้ติดคุกจริงเพียง 14 ปี และพ้นคุกออกมาเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สร้างความแตกตื่นให้กับคนในพื้นที่และประชาชนทั่วไป

เหตุการณ์สยองขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เหตุเกิดภายในบ้าน ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบศพนางรัศมีถูกห่อด้วยผ้าห่ม ท่อนบนสวมเสื้อยืด ลำคอถูกพันด้วยเทปใส ข้อเท้ามัดด้วยสายชาร์จแบตโทรศัพท์ ซุกอยู่ในฟูกที่นอนที่วางอยู่ในห้อง เสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง หลังก่อเหตุสมคิด ขี่จักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไปตามจังหวัดต่างๆทางภาคอีสาน ก่อนจะไปขึ้นรถไฟหลบหนี้เข้าอยุธยา

วันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา สมคิดพลางตัวด้วยการสวมหมวกและใส่หน้ากากอนามัยโดยสารมากับรถไฟขบวนรถ 234 ปลายทางสถานีรถไฟอยุธยา พลเมืองดีพบว่าสมคิดคือชายคนเดียวกันกับที่ตำรวจประกาศจับจึงโทรศัพท์หา ผกก.สภ.กระนวน เพื่อแจ้งเบาะแส จากนั้นแอบถ่ายคลิปสั้นๆ ระหว่างเดินจากโบกี้ที่ 2 ไปยังโบกี้ที่ 3 ให้ ผกก.ดูเพื่อยืนยันว่าใช่คนร้ายที่ตามหา เมื่อถึงสถานีรถไฟปากช่องตำรวจจึงเข้าจับกุมแล้วคุมตัวไปที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อสอบปากคำเบื้องต้น และส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.กระนวน

คดีที่ 3 พริตตี้ลัลลาเบล คดีนี้เป็นอีกคดีที่สังคมให้ความสนใจและมีตัวละครเกี่ยวข้องด้วยหลายคน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ก.ย.62 ลันลาเบล พริตตี้สาววัย 25 ปี ถูกพบเป็นศพบนโซฟาในล็อบบี้คอนโดมิเนียม ย่านตลาดพลู ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานภาพวงจรปิดได้ภาพตั้งแต่พานายน้ำอุ่นนำลัลลาเบลเข้าไปในคอนโดฯ ในสภาพเหมือนคนหมดสติ จากนั้นนำลัลลาเบลออกจากห้องพักชั้น 6 ไปนอนบนโซฟาของล็อบบี้ ขณะที่ผลการชันสูตรศพเบื้องต้นพบว่า ลัลลาเบล เสียชีวิตเพราะช็อกจากการดื่มสุรา (Alcohol intoxication) โดยพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด สูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นำไปสู่การออกหมายจับนายน้ำอุ่น หนุ่มพริตตี้บอย และแก๊งปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง หลังมีพฤติกรรมว่าจ้างผู้ตายไปรับงานเอนเตอร์เทน และร่วมดื่มสุราในบ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนเป็นที่มาของการเสียชีวิต

แก๊งปาร์ตี้บ้านบางบัวทองได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว แต่นายน้ำอุ่นถูกอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อในข้อหาซ่องโจร โดยนำไปฝากขังที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.แสมดำ  1 คืน ก่อนที่พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จะมาอายัดตัวเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา การเสียชีวิตของลัลลาเบล เรียกได้ว่ากระทบวงการพริตตี้ไทยมีการออกมาแฉเบื้องลึกเบื้องหลังพริตตี้สายเอ็นสายเอนเตอร์เทนรวมถึงที่มาของรายได้ต่างๆ เรียกได้ว่างานนี้ร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กัน

คดีที่ 4 ลูกฆ่าแม่หั่นชิ้นส่วนยัดตู้เย็นก่อนคว้าปืนยิงตัวเองดับ คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 เป็นอีกคดีที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับคนในสังคม เมื่อลูกชายวัย 20 ปีก่อเหตุฆ่าแม่ตัวเองแล้วหันศพแยกชิ้นส่วนแชร์ไว้ในตู้เย็น เพื่อนแม่เดินทางไปตามหาแม่ที่บ้านเกิดเหตุพบลูกชายมีลักษณะผิดปกติจากนั้นได้ใช้ปืนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัสก่อนจะไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล คดีนี้ทำให้เกิดกระแสนักสืบโซเชียลพากันสืบหาข้อมูล วิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา ขณะที่กลุ่มเพื่อนและญาติไม่เชื่อว่าจะเป็นฝีมือของลูกชายผู้เสียชีวิตเพราะทั้ง 2 แม่ลูกรักกันมาก

พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.9 เปิดเผยว่า สภาพศพของคนตายคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่เกิน 24-48 ชั่วโมง และจากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่พบว่ามีบุคคลใดเข้าออกในจุดเกิดเหตุ ภายในบ้านพบค้อนและมีปังตอถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อย และจากพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าลูกชายใช้เป็นอุปกรณ์ในการฆาตกรรม เพราะหลักฐานมีเพียงลูกและแม่เท่านั้นที่อยู่ในบ้าน ยังไม่มีใครเข้ามาในบ้านเลย เนื่องจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่วันเสาร์จนถึงวันจันทร์ ไม่มีบุคคลอื่นเข้าออกจากบ้านนอกจากเจ้าของบ้าน 2 คนนี้ คาดว่าเวลาในการฆาตกรรมเกิดขึ้นตั้งแต่ 20.00 น. ของ วันที่ 24 พ.ย.เป็นต้นไป

จากผลการชันสูตรศพแม่พบด้วยว่าการหั่นศพใช้วิธีนำมีดมาวางแล้วใช้ค้อนตอก เพราะบนมีดมีรอย ส่วนห้องน้ำบนบ้านพบคราบเลือดกระจายไปทั่ว แล้วนำชิ้นส่วนศพล้างในห้องน้ำ ล้างเลือดให้สะอาดแล้วใส่ในถุงพลาสติกแช่ตู้เย็น ส่วนที่เฉือนเต้านมนั้น คาดว่าไม่สามารถเอาชิ้นส่วนเข้าตู้เย็นได้ เลยพยายามหั่นให้ชิ้นเล็กลง พร้อมยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่าคนที่ก่อเหตุมีเพียงคนเดียวคือลูกชาย

 

คดีที่ 5 ฆ่าโหดเศรษฐีสายบุญยัดตู้เย็น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเดือน ต.ค.2562 ตำรวจรับแจ้งพบศพหญิงอายุ 58 ปี ถูกฆ่ายัดตู้เย็นภายในอาคารพาณิชย์ ในซอยหน้าวัดพระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ตรวจสอบพบตู้เย็นขนาดใหญ่ถูกวางนอนลงกับพื้นมีผ้าห่มคลุมทับและยังเสียบปลั๊กไฟไว้ ข้างตู้เย็นพบถุงปูนซีเมนต์ 2 ถุง ภายในมีศพถูกมือถือมัดไขว้หลังมีผงปูนซีเมนต์โรยทับอยู่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วเกือบสัปดาห์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ BMW และบัตรกดเงินสดของผู้ตายหายไป คนร้ายในคดีนี้คือ นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือเอ็ม หรือตั้ม อายุ 39 ปี คนขับรถสองแถวที่มีความสนิทสนุมกับผู้ตายเป็นผู้ลงมือ และนำบัตรกดเงินสดของผู้ตายตระเวนกดเงินใน จ.เชียงใหม่, เชียงราย ลำปาง และจ.ระยอง ได้เงินไปร่วม 2 ล้านบาท

และเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2562 พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ อำไพจิตร์ สว.กก.4 บก.ป. ร.ต.อ.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ รอง สว.กก.4 บก.ป. ด.ต.นิติธร ประชันกาญจนา ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุมนายวิฑูรย์ได้ที่บริเวณริมถนนสาย 1072 ต.หนองกระโดน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนี ตำรวจกองปราบพบเงินสดปึกใหญ่ซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก จำนวน 1.2 ล้านบาท และทองคำหนัก 5 บาท นายวิฑูรย์รับสารภาพว่าทำเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่เร่งติดตามทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะเงินสดที่กดออกไปคืนให้กับทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด

คดีที่ 6 ฆ่าโหดครูเมืองระยอง 2 ศพ ชิงบิ๊กไบค์ เป็นคดีมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี มีการอำพรางคดีใหม้ดูเหมือนฆ่ากันเองในครอบครัว คดีนี้เป็นข่าวเมื่อวันที่ 28 พ.ย.62 มีผู้พบศพ 2 ครูภายในบ้านของตนเอง เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด หน้าประตูหน้าบ้านมีกระดาษโน๊ตที่เขียนข้อความแปะติดไว้ ภายในบ้านพบข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อน และมีรอยเลือดกระเซ็นทั่วพื้นบ้าน พบมีดปอกผลไม้ตกอยู่ บริเวณห้องแต่งตัวบนชั้นสองของบ้านพบกับศพผู้ชายถูกเสื้อผ้าปิดตัวไว้จนมิด และศพของผู้หญิงถูกมีดแทงกลางศีรษะเป็นแผลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังพบรอยเท้าของบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ของผู้ตายภายในบ้านพัก คาดทั้งคู่เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 8 – 10 ชม.  เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพิรุธหลายจุดทั้งเรื่องของสภาพศพ โน๊ตกระดาษที่แปะไว้ที่ประตูมีข้อความต่อว่าฝ่ายหญิงแต่ไม่ใช่ลายมือของผู้เสียชีวิตทั้งครู่ และผลชันสูตรศพ พบว่า ผู้ชายถูกปาดคอ ผู้หญิงถูกมีดแทงศีรษะ นอกจากนี้ยังมีปมเรื่องรอยลากศพ ร่องรอยคราบเลือดในห้องน้ำ ตำรวจตั้งประเด็นเป็นคดีฆาตกรรมมากกว่าคดีฆ่าภรรยาและฆ่าตัวตาย

คดีเริ่มคลี่คลายไปเมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิตพบมีการโพสต์ขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ มีการนัดกันมาดูบิ๊กไบค์ที่บ้านเกิดเหตุ และนายศุภกฤต สุจาศรี หรือเติ้ล หนุ่มเชียงใหม่วัย 22 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ขณะที่ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ยืนยันว่านายเติ้ลได้ติดต่อขายรถบิ๊กไบค์ให้ในราคา 3 เเสน 3 หมื่นบาท หักค่าขนส่ง 2 หมื่นบาท ตำรวจยื่นขอศาลอนุมัติหมายจับนายเติ้ลข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนเพื่อชิงทรัพย์ และเริ่มเปิดฉากไล่ล่านายเติ้ลที่สุดไปจนมุมที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

 

 

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า