คนร้ายคือมืออาชีพ ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้ายชิงทอง จ.ลพบุรี

หลังเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย ใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวชิงทองในห้างโรบินสัน จ.ลพบุรี ประธานคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต ชี้คนร้ายมีความนิ่ง วางแผนมาอย่างรอบคอบ ไม่ใช่มือสมัครเล่นแน่นอน

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้ไปพูดคุยกับ รศ.พ.ต.ท.ดร. กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมคนร้ายรายนี้ โดย รศ.พ.ต.ท.ดร. กฤษณพงค์ วิเคราะห์ว่า เท่าที่ดูคลิปนะครับ ที่ติดตามข่าวก็พบว่าคนร้ายมีการอำพรางใบหน้า ใส่หมวกไหมพรม ลักษณะตั้งแต่การจอดรถแล้วเดินเข้ามาค่อนข้างจะมีความเชื่อมั่นพอสมควร หมายความว่าเขากล้าที่จะถืออาวุธปืนเข้ามา ปิดบังใบหน้าตั้งแต่ตอนเข้ามา แน่นอนเขารู้อยู่แล้วว่าการเข้ามาสถานที่แห่งนี้ ต้องมีกล้องวงจรปิด เขามาดูลาดเลาก่อนอยู่แล้วล่ะครับ เขาเลือกจุดจอดรถ เขาเลือกที่จะใช้อำพรางใบหน้าตั้งแต่ตอนเข้ามา แล้วประการสำคัญเขาเลือกที่จะใช้อาวุธปืน ที่มีการติดลำกล้องเก็บเสียงนะครับ ตรงนี้มีความสำคัญ แต่สิ่งที่สังคมคงตั้งคำถามอยู่ว่าทำไม คนร้ายถึงตัดสินใจที่จะยิงคนก่อน ไม่ว่าจะเป็นทั้ง เจ้าหน้าที่ รปภ. เหยื่อที่เป็นผู้หญิง พนักงาน หรือแม้กระสุนพลาดไปโดนเด็กอย่างนี้หรืออาจจะเจตนายิงหรือเปล่าต้องรอพิสูจน์นะครับ ตรงนี้คือประเด็นสำคัญว่า แสดงว่าจิตใจของคนร้าย แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนร้ายมือสมัครเล่น ไม่ใช่ว่าเสพยา ต้องการเงินแล้วไปก่อเหตุไม่ใช่นะครับ อาจจะเป็นคนร้ายที่เคยก่ออาชญากรรมมาก่อน มีหมายจับ มีคดีติดตัว หรือเคยก่อหรือร่วมก่ออาชญากรรม แต่ยังไม่มีประวัติก็ได้ เป็นไปได้ทั้งหมดนะครับ

รศ.พ.ต.ท.ดร. กฤษณพงค์ กล่าวต่อว่า คนร้ายดูแล้วถนัดมือขวา การจับอาวุธปืนมีการวางนิ้วชี้ขนาดไปกับไกปืนถ้ายังไม่ได้ยิน ก็เป็นการเรียนรู้มา เป็นการฝึกฝนทักษะมา ตรงนี้ก็อาจจะต้องมองย้อนไปว่า แล้วใครบ้างล่ะที่ตรงลักษณะเหล่านี้นะครับ ความสูงพอรู้แล้ว เราเทียบเคียงได้ มือ ลักษณะการเดิน ท่าทาง แต่น่าสนใจตรงที่คนร้ายไม่มีการสื่อสารอะไรเลย มาถึงก็ยิงเอาทองเลย ดูลักษณะการจับอาวุธ การเดิน มีความนิ่งพอสมควร แล้วการใช้อาวุธดูลักษณะเหมือนมี ต้องเรียกว่าผ่านการฝึกฝนการใช้อาวุธ อาจจะเป็นข้าราชการตำรวจ ทหาร หน่วยงานความมั่นคงก็ได้ คนที่เคยมาทำงานในลักษณะนี้ หรือเป็นพลเรือนก็ได้ ที่ผ่านการฝึกฝน อาจจะชอบปืน มักซ้อมยิงปืน ชอบเล่นปืนอะไรพวกนี้ก็ได้ เพราะว่าปกติแล้วเนี่ย อุปกรณ์ที่ติดลำกล้องปืนที่ลดเสียง จะไม่อนุญาตให้พลเรือนใช้ ใช้เฉพาะในราชการทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานความมั่นคง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้หมายความว่าพลเรือนจะมีไม่ได้ อาจจะมีบางคนไปเรียนรู้จากอินเทอร์เน็ต ครูพักลักจำ ไปดัดแต่งแปลงก็ได้ หรือว่าลักรอบนำเข้า สั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศก็ได้