รัฐบาล เร่งฉีดวัคซีนคนใน กทม. ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 5 ล้านคน หรือ 70% ภายในเดือน ก.ค.นี้

รัฐบาลเผยเร่งปูพรมฉีดวัคซีนคนใน กทม. ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 5 ล้านคน หรือ 70% ภายในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่และควบคุมการระบาดต่อเนื่อง

วันที่ 18 พ.ค. 2564 เฟซบุ๊กเพจไทยคู่ฟ้าของรัฐบาล ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. ขณะนี้ ยังคงพบจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง การปูพรมฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมการระบาดจึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน

รัฐบาลจึงตั้งเป้าให้ในพื้นที่ กทม. จะต้องมีประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 70% หรือประมาณ 5 ล้านคน ภายใน 2 เดือน (มิ.ย. – ก.ค. 2564) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดความครอบคลุมมากที่สุด

ขณะเดียวกัน ต้องเร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนและติดตามผู้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินมาตรการทางสาธารณสุข 3 ด้าน เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาด

1. การค้นหาในจุดที่มีการระบาดใหญ่ๆ ติดตามผู้สัมผัสให้อยู่ในความควบคุม รวมถึงตรวจเชื้อในกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นระยะ

2. มาตรการส่วนบุคคล เช่น ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ปิดสถานที่

3. มาตรการองค์กร อาทิ แคมป์คนงาน ที่ต้องขอความร่วมมือเจ้าของแคมป์ เข้มงวด บังคับ กวดขัน และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้ดียิ่งขึ้น

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้พื้นที่กรุงเทพฯ สามารถให้ประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้แล้ว 8,000 คน มีการเปิดจุดฉีดนอกโรงพยาบาล อีก 11 แห่ง รวมเป็น 25 แห่งภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ตั้งเป้าจะฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 6-7 หมื่นคน ในกลุ่มประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ซึ่งมีการระบาด กลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น พ่อค้า แม่ค้า คนขับรถขนส่ง และแท็กซี่