อธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่แก่งกระจาน แจ้งผลสอบคดี ‘บิลลี่ พอละจี’ เผย ‘มึนอ’ ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย

‘พ.ต.ท.กรวัชร์’ อธิบดีดีเอสไอ ลงพื้นที่แก่งกระจาน แจ้งผลสอบคดี ‘บิลลี่ พอละจี’ เผย ‘มึนอ’ ภรรยาของบิลลี่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย

วันที่ 29 ก.ย. 2564 พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางลงพื้นที่ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบนางพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ ‘บิลลี่’ แกนนำกระเหรี่ยง บ้านโป่งลึก บางกลอย เพื่อแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 13/2562 คดีการหายตัวไปของ บิลลี่ หลังดีเอสไอ ได้สอบสวนเสร็จสิ้นและสรุปสำนวนเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 4 คน ส่งพนักงานอัยการ

ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางคนในบางข้อหา ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าวไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมาสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีหนังสือแจ้งมายังอธิบดีดีเอสไอโดยขอให้พนักงานสอบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ใน 4 ประเด็น ก่อนชี้ขาดความเห็น

พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ทางอัยการขอให้ดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติมจากที่เคยสอบ คือ เรื่องการตรวจหาความสัมพันธ์ทางสายโลหิตและสารพันธุกรรมระหว่างบิลลี่กับมารดา การใช้เครื่องมือพิเศษของดีเอสไอที่สามารถตรวจพบกระดูก ผลตรวจทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ในเรื่องกระดูก ซึ่งเป็นการกำหนดให้สอบรายละเอียดพยานหลักฐานเพื่อนำไปสนับสนุนสำนวนการสอบสวน ซึ่งตนได้กำชับพนักงานสอบสวนไปแล้วให้ทำอย่างละเอียด รวมทั้งการให้ความคุ้มครองพยานตามที่นางมึนออย่างต่อเนื่อง เพราะจากพูดคุยพบว่า มึนอยังกังวลในเรื่องความปลอดภัยอยู่

“ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนกองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค เร่งสอบสวนเพิ่มเติมตามหนังสือของสำนักงานอัยการสูงสุดให้เสร็จโดยเร็ว และหลังจากนี้อธิบดีดีเอสไอคนใหม่ก็จะเข้ามาดูแล ส่วนการลงพื้นที่ของผมวันนี้เพื่อต้องการให้กำลังใจกับมึนอ และแจ้งความคืบหน้าเพิ่มเติม ซึ่งมึนอจำเป็นต้องรู้เป็นหลักประกันสิทธิและเสรีภาพ ขั้นพื้นฐานให้กับผู้เสียหาย หรือเหยื่ออาชญากรรมตามมาตรฐานสากล ตามปฎิญญาว่าด้วยหลักความยุติธรรมขั้นพื้นฐานสำหรับผู้เสียหายจากอาช ญากรรมและการใช้อำนาจโดยมิชอบ” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว