หนุ่มใหญ่ หวั่นภรรยาปันใจ ยิง 7 นัด ดับคาบ้าน หลังทะเลาะกันอย่างรุนเเรง

ประเด็นคือ – สามีคิดว่าภรรยาปันใจให้ชายอื่น ใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ศีรษะและลำตัวรวมกัน 7 นัด ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

29 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.15 น. (28 พ.ย.) พ.ต.ท.พงศกร เหมราช รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ได้รายงานจากศูนย์วิทยุ 191 รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านภายในหมู่บ้านชื่นชีวา โครงการ 2 ตำบลหลุมดิน อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ว่ามีสองสามีภรรยาทะเลาะกันอย่างรุนแรงส่งเสียงดังก่อนจะได้ยินเสียงอาวุธปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด และพบว่าภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส

จึงได้รีบเดินทางไปพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาสาสมัครมูลนิธิประชานุกูรราชบุรี และ ชุดกองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลราชบุรี ไปยังบ้านหลังดังกล่าวซึ่งตั้งอยู่ในโครงการบ้านชื่นชีวา แฟลต 2 ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 บ้านเลขที่ 112/8 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี พบมีผู้เสียชีวิตจากการทนบาดแผลไม่ไหว มีเลือดไหลนองออกจากที่บริเวณศีรษะและลำตัว ทราบชื่อต่อว่าคือ นางสุภาพร คำแก้ว อายุ 45 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายสามารถ คำแก้ว อายุ 45 ปี หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

จากการสอบถามชาวบ้านผู้ที่แจ้งทางศูนย์บริการประชาชน 191 ทราบว่าผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเป็นสามีภรรยากัน อยู่ด้วยกันมานานหลายปี และวันนี้ช่วงค่ำมาจนถึงช่วง 23.00 น.ทั้งคู่ได้ทะเลาะกัน ด่าทอและท้าทายกันอย่างรุนแรงด้วยเรื่องส่วนตัว และฝ่ายสามีเกรงกลัวว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่น จึงได้นัดเคลียร์กันที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งฝ่ายภรรยา (ผู้ตาย) ได้นั่งอยู่บนที่โต๊ะบริเวณศาลาติดรั้วข้างบ้าน

ส่วนสามี (ผู้ก่อเหตุ) ได้ยืนอยู่บริเวณสวนหน้าบ้าน และส่งเสียงด่าทอกันอย่างดัง ทำเอาชาวบ้านถึงกับตกใจ ก่อนที่สามีเลือดร้อนควักอาวุธปืนขึ้นมากระหน่ำยิง ซึ่งปลอกกระสุนได้ตกอยู่บริเวณริมรั้วบ้านและที่พื้นหญ้าจำนวน 7 ปลอก และยังพบหัวกระสุนตกที่ใบริเวณใกล้ผู้ตายอีกจำนวน 2 หัว ซึ่งพบว่าเป็นกระสุนขนาด 9 มม.

อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บรวบรวมพยานและหลักฐาน และชันสูตรพลิกศพนางสุภาพร ก่อนจะเรียกให้ลูกชายเข้ามาเป็นพยานและเก็บทรัพย์สินมีค่าที่ตัวมารดาผู้ตาย เเล้วนำศพส่งโรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุที่หลบหนีมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป