ประเด็น – หลังจากที่โลกโซเชียลแห่แชร์คลิปวิดิโอเจ้าหนี้ทวงหนี้โหด ทั้งเตะหัว เตะก้านคอ เน้นจุดตาย จนคนที่โดนทวงไม่มีโอกาสลุกขึ้นมาพูดเลยนั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายมาดำเนินคดีแล้ว โดยผู้ก่อเหตุบอกพยามยามทวงหลายรอบแล้ว แต่ผู้ยืมกวนโอ๊ยเอง ไปดูคลิปต้นเหตุ
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากที่บนโลกออนไลน์ ได้มีการแชร์คลิปวิดิโอ ที่เป็นคลิปทำร้ายวัยรุ่นชายคนหนึ่ง พร้อมข้อความที่ระบุว่า “วัยรุ่นถูกกระทืบที่พิจิตรเพราะไปยืมเงินเขามาพันเดียว ไม่มีปัญญาคืน คุณค่าชีวิตคนจนมันต่ำจัง ทวงเงินต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ เตะหัว เตะก้านคอ เน้นจุดตาย ทำให้น้องอายุสิบเก้าปี ตอนนี้อาการแย่ ไม่รู้มีปัญหาสมองไหม ส่งข้อความหาแม่ด้วยความหวาดกลัว สองแม่ลูกไม่กล้าแจ้งความกลัวถูกรุมทำร้ายอีก” ซึ่งคลิปดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 24 พ.ย. ที่บริเวณริมคลองชลประทาน หมู่ที่ 7 ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมืองพิจิตร จนมีผู้คนให้ความสนใจ เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ สภ.เมืองพิจิตร พ.ต.อ.ธวัชชัย มวลนารา รรท.ผบก.ภ.จว.พิจิตร พร้อมชุดสืบสวน ได้ควบคุมตัว นายสุริยะ ทรงมาก อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ (เสื้อสีเหลือง) และนายชัยยันต์ กันภัย อายุ 22 ปี ผู้ถูกกระทำ (เสื้อสีแดง) มาสอบสวนสอบปากคำถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพบว่าคู่กรณีรู้จักกันมาก่อน
โดยนายชัยยันต์ ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ได้ยืมเงินจากนายสุริยะ 1,000 บาท มาหลายเดือนแล้ว ทำให้นายสุริยะ มาทวงหนี้ตลอด แต่ตนยังไม่มีจ่ายตอนนี้ เพราะเอาเงินที่ยืมมาไปแต่ง จยย.จนหมดแล้ว ซึ่งวันที่คลิปเผยแพร่เขาก็มาทวงอีก พอไม่ได้คืนเจ้าหนี้ก็ได้ทำการตบและเตะเพื่อสั่งสอน จนมีอาการเจ็บที่ปากเล็กน้อยแต่ไม่มาก และไม่ถึงกับต้องเข้าโรงพยาบาล
ขณะที่ นายสุริยะ ผู้ก่อเหตุ ให้การว่า ตนเองพยายามทวงเงินหลายรอบแล้ว เพื่อนำไปคืนมารดา แต่นายชัยยันต์ก็พยาบามหลบหน้าหนีตลอด ไม่ยอมจ่ายเงินที่ยืมไป เสียที อีกทั้งยังพูดจากวนประสาท จึงทำให้ตนเกิดความโมโห และ ลงมือทำร้ายร่างกาย ดังกล่าว
ส่วนทางด้าน พันตำรวจเอก ธวัชชัย มวลนารา รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ระบุว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับนายสุริยะ 2 ข้อหาคือ ทำร้ายร่างกาย และ ข้อหาใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ เนื่องจากจากการสืบประวัติผู้ก่อเหตุ เคยมีคดี พยายามฆ่า และ เสพยาเสพติด ถึง 3 คดี พร้อมนำตัว ส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป