ประเด็นคือ- ตร.กรุงเก่าล็อกตัวสองวายร้ายชายหญิง ตระเวนขโมยแบตเตอรี่แผงโซลาร์เซลล์ ทำไฟถนนดับทั้งเส้น รับสารภาพนำไปขายของเก่า
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 ม.ค. 61 พ.ต.ท.ธานินทร์ ผิวละเอียด รอง ผกก.สส. สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.ท.มานพ ชาวไร่ สว.สส., ร.ต.อ.ปิยะ หัทยา รอง สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำตัวนายวีระพงษ์ หรือเล็ก นามสลี อายุ 31 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 13 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย และ น.ส.น้ำทิพย์ ศรีภุมมา อายุ 33 ปี บ้านอยู่หมู่ที่ 5 ต.หนองนกแก้ว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี มาทำการสอบสวน
ผู้ต้องหาถูกจับกุมได้พร้อมของกลาง แบตเตอรี่ 12 โวลต์ ยี่ห้อโกลแบตต์ สีเทา ขนาด 150 แอมป์ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่เก็บกระแสไฟฟ้า จากแผงโซลาร์เซลล์ ติดตั้งบนเสาไฟส่องสว่าง จำนวน 1 ลูก
ทั้งนี้ก่อนหน้านั้นได้มีเจ้าหน้าที่นิติกรชำนาญการ อบจ.พระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งความร้องทุกข์กับร้อยเวร สภ.อุทัย ว่า แบตเตอรี่ที่เก็บกระแสไฟฟ้า จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนเสาไฟส่องสว่าง ริมถนนสาธารณะหมู่ที่ 6 ติดต่อกับหมู่ที่ 8 ต.สามบัณฑิต เชื่อมต่อกับ ต.หนองไม้ซุง อ.อุทัย ถูกคนร้ายโจรกรรมไปกว่า 40 ต้น ได้รับความเสียหาย ไฟฟ้าส่องทางดับ มืดยาวไปหลายกิโลเมตร
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อุทัย จึงได้ออกตรวจสอบ ติดตามหาข่าวจนกระทั่งได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีบุคคลต้องสงสัยจอดรถ จยย.อยู่ริมถนนสาธารณะ หมู่ที่ 6 ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย เจ้าหน้าที่จึงรีบเดินทางไปทำการตรวจสอบ พบนายวีระพงษ์ และ น.ส.น้ำทิพย์ โดยมีแบตเตอรี่ 12 โวลต์ ยี่ห้อโกลแบตต์ สีเทา ขนาด 150 แอมป์ วางอยู่ข้างๆ รถ จยย. เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น
เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามที่จะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ และนำตัวมาสอบสวนดังกล่าว
จากการสอบสวนจึงทราบว่า นายวีระพงษ์ และ น.ส.น้ำทิพย์ ซึ่งเป็นกิ๊กกัน ได้ชักชวนกันขโมยแบตเตอรี่ เสาไฟมาเพียงครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน โดยก่อนหน้าตนได้ขโมยแบตเตอรี่แล้วนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าแห่งหนึ่ง ในหมู่ที่ 4 ต.อุทัย อ.อุทัย ในราคาลูกละ 700-900 บาท ตามสภาพ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เนื่องจากไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า เสาไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ถูกขโมยแบตเตอรี่ไปทั้งหมดกว่า 50 ต้น
ผลของการขโมยแบตเตอรี่ดังกล่าว ทำให้กระแสไฟฟ้าส่องสว่างบนถนนดับเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร และยังมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุและเกิดอาชญากรรมด้วย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้จับกุมในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณะประโยชน์ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด ส่งร้อยเวร สภ.อุทัย ดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งจากการตรวจสอบของทีมข่าวเวิร์คพอยท์พบว่า แบตเตอรี่โกลแบตต์ รุ่น Deep cycle INVA 150 A ที่ผู้ต้องหาลักขโมยไปนั้น สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ลูกละ 7,000 บาท
การลักขโมยทรัพย์สินของราชการ นับเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้สังคมในวงกว้าง หากผู้ใดพบเห็นการกระทำที่น่าสงสัย อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดบนถนนสายทางหลวงชนบท โปรดแจ้งสายด่วนกรมทางหลวงชนบทที่ฮอตไลน์ 1146 โทรฟรีทุกเครือข่าย