DSI ยัน เสี่ยกำพล-เมีย เจ้าของวิคตอเรีย ยังไม่ติดต่อมอบตัว

ประเด็นคือ – สั่งสกัด เสี่ยกำพล-ภรรยา หนีออกนอกประเทศ ดีเอสไอยันยังไม่ติดต่อเข้ามอบตัว ส่วนการสอบสวนเด็กหญิงผู้เสียหายไม่ยืนยันชื่อย่อ อ้างจำหน้าแขกไม่ได้

จากกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ ภายหลังมีการออกหมายจับ นายกำพล วิระเทพ สุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล อายุ 61 ปี กับนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ หรือธีระตระกูลวัฒนา อายุ 68 ปี ภรรยา นายกำพล เจ้าของวิคตอเรียซีเครท ตัวจริง ดำเนินคดีใน 12 ข้อหา โดยดีเอสไอนำสำนวนการสอบสวนจาก สน.วังทองหลาง มาทำเป็นคดีพิเศษตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 61 คืบหน้าเรื่องนี้ทาง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีค้ามนุษย์สถานอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท ว่า พนักงานสอบสวนดีเอสไอได้รับมอบสำนวนจากตำรวจ สน.วังทองหลาง เสร็จสิ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันเดียวกันนี้ หลังจากนี้จะเรียกประชุมพนักงานสอบสวนและที่ปรึกษาคดีพิเศษจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่บูรณาการร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางการสอบสวน โดยเบื้องต้นจะตรวจสอบสำนวนที่ได้รับจากตำรวจว่าได้สอบสวนในประเด็นใดไปแล้วบ้าง สอบสวนครบหรือไม่ และต้องสอบประเด็นใดเพิ่มอีกหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน

ส่วนการออกหมายจับ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล กับนางนิภา วิระเทพสุภรณ์ สองสามีภรรยานั้นทราบว่าพนักงานสอบสวนสน.วังทองหลาง ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับจากศาลอาญา เมื่อเย็นวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังรับมอบสำนวนทางพนักงานสอบ สวนดีเอสไอจะเข้าไปดูแลต่อ ขณะที่กระแสข่าวนายกำพลมามอบตัวที่ดีเอสไอนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหารายใด

ทั้งนี้มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน ดีเอสไอได้ประสานไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อสั่งการไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศเฝ้าระวังติดตามบุคคลตามหมายจับ ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศได้

แหล่งข่าวจากศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่สอบปากคำเด็กและหญิงสาวที่ให้บริการในสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ได้เพียงข้อมูลกว้าง ๆ เด็กยังไม่ยืนยันบุคคลตามบัญชีอักษรย่อที่มาใช้บริการ แบบรับรองในรูปแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยอ้างตรงกันว่าจำหน้าแขกที่มาใช้บริการไม่ได้ หลังจากนี้ยังต้องสอบปากคำอีกหลายครั้ง โดยต้องนำหลักฐานอื่นที่ขยายผลได้จากการสอบสวน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลการเงินจากบัตรเครดิต และพยานแวดล้อมอื่น ๆ ไปสอบถามเด็กอีกครั้ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเร่งสอบปากคำเด็กที่เป็นเหยื่อในคดีค้ามนุษย์และหญิงสาวที่เป็นผู้ต้องหาค้าประเวณี ก่อนที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะผลักดันคนกลุ่มนี้กลับสู่ประเทศต้นทาง

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะกำกับดูแลคดีพิเศษด้านการค้ามนุษย์ เปิดเผยการสอบสวนคดีค้ามนุษย์วิคตอเรีย ซีเครท ว่า หลังจากรับสำนวนคดีจากตำรวจแล้วในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ตนจะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ เพื่อสรุปข้อมูลทั้งหมด และคาดว่าจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อมูลด้านยอดการตรวจหญิงสาวทั้งหมด 113 คน และแนวทางการดำเนินงานต่อไป หากพบเป็นเหยื่อค้ามนุษย์จะต้องทำยังไงบ้าง และจะขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง หากมีพยานหลักฐานชัดเจนทั้งหมด