แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสาม ทำขนมธัญพืชขายออนไลน์ ‘ครัวไอโกะ’ เลี้ยงชีวิตลูกออทิสติก

ธุรกิจร้านเบเกอรี่ อาจเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคน ว่าสักวันหนึ่งอยากจะเปิดร้านเบเกอรี่เป็นของตัวเอง เพื่อทำเป็นอาชีพเสริม หรืออยากจะทำเป็นอาชีพหลักโดยเป็นเจ้าของกิจการอย่างเต็มตัวและได้ใช้ชีวิตอิสระไปด้วย แต่สำหรับ รมิดา สาระกูล หรือ แม่เก้ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านครัวไอโกะ ออทิส จ.ปราจีนบุรี จุดเริ่มต้นของเธอไม่ได้สวยงามมาจากความฝัน แต่อาชีพนี้เป็นทางรอดเดียว ที่จะทำให้แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสามอย่างเธอ มีรายได้พอซื้อกับข้าวเลี้ยงลูกๆ

รมิดา สาระกูล หรือ แม่เก้ เจ้าของร้านครัวไอโกะ ออทิส จ.ปราจีนบุรี และน้องแอล ลูกสาวคนเล็ก

ชีวิตพลิกผัน จากคนรวยจนไม่เหลืออะไร แม่เก้ เล่าในรายการปัญญาปันสุขว่า ครอบครัวของเธอเคยทำธุรกิจโรงพิมพ์ ซึ่งเป็นธุรกิจของฝั่งสามี มีรายได้ฐานะดี แต่เมื่อปี 2554 ธุรกิจล้ม สามีเลิกทำธุรกิจโรงพิมพ์ เพราะหนังสือไม่ได้รับความนิยมแล้ว และเริ่มมีออนไลน์ หรือ E-book เข้ามาแทน พอเลิกทำธุรกิจก็หมดตัว รถที่เคยขับก็โดนยึด จึงมีปัญหากับสามีเลยแยกทางกัน เธอตัดสินใจพาลูก 3 คน กลับมาอยู่บ้านเกิดที่ปราจีนบุรี ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวจึงดิ้นรนไปทำงานเป็นสาวโรงงานขนมเปี๊ยะอยู่ 4 ปี ก็ต้องลาออกเพราะหยุดงานบ่อย ด้วยความจำเป็นที่ลูกคนกลาง น้องไอโกะ เป็นเด็กออทิสติก ทำให้ไม่มีคนดูแล แม่ต้องหยุดงานเพื่อมาดูแล

“แม่รู้ว่าน้องเป็นออทิสติกตอน 7 ขวบ ตอนแรกหมอบอกว่าพัฒนาการช้า มารู้ช้า ก็กระตุ้นพัฒนาการมาเรื่อยๆ ตั้งแต่น้องอายุ 8 เดือน ก็ไม่มองแม่แล้วน่ะ ก็ไม่เรียกแม่ ก็เครียด”

“ลำบากที่สุดไม่มีตังค์ซื้อข้าวให้ลูกกิน ไม่มีค่าขนมให้ลูกไปโรงเรียน ลูกเคยไปโรงเรียนสองสัปดาห์โดยที่ไม่มีเงินไปโรงเรียน เช้ามาก็จะหุงข้าวทำกับข้าวทอดไข่ ผัดผักบุ้ง ผัดแตงกวา พวกผักที่ราคาไม่เกิน 10 บาท ”  แม่เก้ เล่าในรายการปัญญาปันสุข

ชีวิตที่มืดมน ในวันนั้นแม่เก้ ยอมรับว่าเคยคิดฆ่าตัวตายยกบ้าน ตอนนั้นลูกป่วย 3 คน พร้อมกันไม่มีเงินพาไปหาหมอ เงินค่าเหมารถเข้าโรงพยาบาลในเมือง 400 บาท แม่เก้ไม่มีเงิน จึงคิดว่าอย่าอยู่กันเลยลูก เคยคิดฆ่าตัวตายยกบ้าน แล้วเอโกะ ลูกคนกลางที่ป่วยออทิสติก หยิบผ้ามาเช็ดน้ำตาให้ จากที่เขาไม่เคยเรียกแม่ ก็เรียกแม่ครั้งแรก เลยทำให้เปลี่ยนความคิด ให้ได้สติ

ท่ามกลางความยากลำบาก ไอโกะ ลูกออทิสติก คือ หนึ่งในแรงผลักดัน ที่จับมือเคียงข้างมาจนวันนี้ จุดเริ่มต้นการทำขนมก็เช่นเดียวกัน เธอได้เข้าไปอยู่ชมรมผู้ปกครองออทิสติก ในชมรมผู้ปกครองมีการสอนเพาะเห็ด สอนทำเบเกอรี่เบื้องต้น ไปอบรมอยู่ 3 วันก็มองเห็นโอกาสน่าจะต่อยอดเป็นอาชีพได้ เธอจึงเรียนสูตรเพิ่มเติมจากยูทูบ เรียนเสร็จตัดสินใจ เริ่มต้นเพาะเชื้อเห็ดนางฟ้า ทำเห็ดแปรรูป ทำน้ำพริกเห็ดขาย และลงทุนซื้อเตาอบมือสองมาทำขนมขาย ตอนแรกทำขนมไปฝากขายตามร้านกาแฟต่าง ๆ แต่ขนมที่นำไปฝากเหลือบ่อยขายไม่หมด เลยหันมาขายออนไลน์

“เริ่มจากการเพาะเห็ด มาแปรรูปขาย แต่ทำได้ไม่กี่ปียอดขายไม่ดีเหมือนเดิม ออเดอร์หายเกือบ สัปดาห์ ไม่มีเงินเข้าบ้าน แม่และลูกก็อด”

“ตอนนี้มีเมนูเยอะมาก เพราะคิดว่าถ้าเห็ดขายไม่ได้ก็ขายขนมได้ ขอให้มีออเดอร์เข้ามาทุกวัน ให้แม่ได้ทำเถอะรวมๆ กันไป ตอนนี้ลูกค้าสั่งกันมาเยอะ ทุกอย่างเริ่มต้นใหม่ เพราะไม่ได้ทำค้างไว้ ทำขนมใหม่หมดวันต่อวัน มันก็เลยต้องเสียเวลาทำ”

ช่วงเวลาทำขนมส่งลูกค้า ต้องทำตอนกลางคืน บางคืนได้นอนแค่ 2-3 ชม. เพราะต้องตื่นไปตลาดซื้อวัตถุดิบทำขนม ควบคู่กับการดูแลน้องไอโกะ ทำให้เธอรับออเดอร์ได้ไม่มาก มีข้อจำกัดผลิตสินค้าไม่ทัน รายได้จากการขายขนมเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท แต่มีค่าใช้จ่ายสูง บางวันเธอไปหาอาชีพเสริมเป็นผู้ช่วยผู้ดูแลคนพิการ ผู้ป่วยติดเตียงตามบ้าน ได้ค่าแรงชั่วโมงละ 50 บาท ทำวันละ 3 ชม. แต่ไม่ได้ทุกวัน

“โดยปกติแล้วช่วงกลางวันหลังส่งน้องไปโรงเรียนแล้ว แม่จะซื้อวัตถุดิบมาและแม่ก็จะเตรียมไว้สำหรับปรุง พอน้องนอนแล้วแม่ทำงานกลางคืนค่ะ ก็จะเอาขนมเข้าอบกลางคืน แพ็กกลางคืน เสร็จประมาณตี 2-3 ของทุกวัน ตอนเช้าก็จะเอามาแพ็กลงกล่อง ช่วงบ่ายๆ ก็จะมีขนส่งเข้ามารับที่บ้าน”

แม้จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว และมีข้อจำกัดในการประกอบอาชีพบ้าง แต่เธอไม่ท้อต่อปัญหาและอุปสรรค ด้วยความที่ไม่มีเงินทุน จึงไม่มีกำลังสต็อกวัตถุดิบ เพราะต้นทุนค่าวัตถุดิบในการทำขนมมีราคาสูง ใช้ของแพง เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ เธอต้องขี่รถมอเตอร์ไซด์คนเดียวจาก อ.ประจันตคาม ไปซื้อในตัวเมืองปราจีนบุรี ระยะทางไปกลับ 40-50 กิโลเมตร อยู่บ่อยครั้ง

เหตุผลที่เลือกขายขนมธัญพืช เพราะมองเห็นเทรนด์รักสุขภาพจากเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ก มีกลุ่มที่รับประทานอาหารคลีน และคีโต จึงคิดว่าจะทำขนมอะไรขายคนกลุ่มนี้ ประกอบกับใครๆ ก็ทำบราวนี่ ขนมปัง เค้กขายกันเยอะแล้ว จึงเลือกขายเมนูแรก ‘คุ๊กกี้ธัญพืช’ เพราะขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้เครื่องตีแป้งซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ราคาสูง ถัดมาจึงเป็นเมนูธัญพืชอบกรอบ กราโนล่าบาร์  กราโนล่าซีเรียลอาหารเช้า โดยมีการพัฒนารูปแบบและรส กลิ่น สี ให้เป็นไปตามความต้องการลูกค้า เริ่มแรกก็ขายให้กับลูกค้าประจำที่รู้จักกันไม่ถึง 10 คน ทำให้พอมีรายได้เป็นค่ากับข้าวเลี้ยงดูลูกๆ

“จุดเด่นของร้านคือ แม่ทำให้ใหม่ๆ ทำเสร็จแล้วก็ส่ง ไม่มีทำค้างไว้นะคะ อย่างปลาร้าทอดแกะก้างแม่ทำเช้าแล้วส่งบ่าย เพราะเราไม่ได้ใส่สารกันบูด ไม่ใส่ผงชูรส และไม่ใส่สีกลิ่นสังเคราะห์ ตรงนี้เพื่อสุขภาพเลยค่ะ คือทุกอย่างที่ลูกค้ากิน แม่กับลูกก็กินด้วย เพราะที่เหลือก็เหมือนแม่ทำกับข้าวให้คนในครอบครัวกิน ก็เลยเป็นชื่อที่มาของ ‘ครัวไอโกะ ออทิส’ อยากกินอะไรก็สั่งมาทำให้ได้หมด” แม่เก้ กล่าวกับทีม workpointTODAY

สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดและสั่งซื้อขนมธัญพืชเพื่อสุขภาพ หรืออาหารตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่ง  เช่น เค้ก, คุ๊กกี้, ปลาร้าทอดสมุนไพร, มะนาวดอง, กิมจิ และอื่นๆ จาก ‘ครัวไอโกะ ออทิส’ ติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 09 0330 2629 เพจเฟซบุ๊กชื่อ ครัวไอโกะ ออทิส Aiko Autis

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=134917938279415&id=107885317649344