Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

เพราะความเป็นแม่ ทำให้ท้อแท้ไม่ได้ ยายคำพลอยในวัย 80 ปี จึงต้องสู้สุดใจ แม้ร่างกายจะเริ่มโรยรา สามีเสียชีวิต ต้องดูแลลูกชายพิการถึง 2 คน และบ้านถูกไฟไหม้จนไม่เหลืออะไรเลย

นี่คือเรื่องราวของหญิงชราคนหนึ่ง ที่บั้นปลายชีวิตต้องเจอกับมรสุมนับครั้งไม่ถ้วน แต่ยังคงสู้อยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะ “ลูก”

มรสุมที่ซ้ำเติมความเจ็บปวด

เชื่อว่าทุกคนคงมีความหวังว่าชีวิตบั้นปลาย จะได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย และสุขสบาย อยู่ที่ไหนสักแห่ง ซึ่งยายคำพลอย อดีตภรรยาข้าราชการตำรวจคนนี้ก็เช่นกัน เธอเคยคาดหวังอย่างนั้น แต่ชีวิตกลับมีจุดพลิกผันซ้ำๆ จนชีวิตในวัย 80 ปี ต้องเดินหน้าต่อไปพร้อมกับความเจ็บปวดอย่างเลี่ยงไม่ได้

34 ปีที่แล้ว “บิ๊ก” ลูกชายคนกลางของยาย ได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เพื่อนแล้วเกิดอุบัติเหตุ ร่างกายภายนอกแทบไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย แต่สมองกลับบอบช้ำ เริ่มมีความผิดปกติทางสมอง ทำลายข้าวของ โมโหง่าย พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง และทำร้ายร่างกายยายคำพลอยอยู่บ่อยครั้ง

“ตอนนั้นต้องส่งเขาเข้ารักษาตัวที่ รพ. ศรีธัญญา แต่เห็นเขาดิ้นทุรนทุราย เวลาคลั่งก็ต้องโดนทำให้สลบ เลยทำใจไม่ได้ ให้เขากลับบ้านเหมือนเดิมดีกว่า แล้วทำรั้วกั้นให้เขาอยู่แต่ในบ้าน พอเขากลับมาอยู่บ้านก็ทำร้ายยายนะ เคยถึงขั้นบีบคอ เพราะเขาระแวงว่าจะโดนทำร้าย แต่ยายก็บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร อดทนเอา เพราะดีกว่าลูกไปทำร้ายคนอื่น เลยค่อยๆ พูดกับเขาแบบใจเย็น ว่าพอก่อน ค่อยกลับมาสู้กันใหม่ตอนแม่มีแรง เขาก็รับปากแล้วก็ปล่อย”

แต่เรื่องลูกก็ไม่ใช่ความเสียใจเดียวในชีวิต เพราะต่อมาไม่นาน สามีผู้เป็นเสาหลักครอบครัวได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ด้วยโรคหัวใจ นั่นทำให้ต้องย้ายออกจากบ้านพักตำรวจที่เคยอยู่ แล้วพาลูกชายคนกลางและคนเล็กกลับไปอยู่บ้านเกิดของยายคำพลอยที่แม่สอด ส่วนลูกชายคนโตนั้นแยกไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว

ที่แม่สอด ยายคำพลอย นำเงินบำเหน็จของสามี มาปลูกบ้านใหม่บนที่ดินมรดกของตัวเอง เป็นบ้านไม้ 1 ชั้นหลังเล็ก ยกพื้นสูง รอบบ้านมีสวนผัก มีต้นไม้ และยายก็เอาจักรเย็บผ้า กลับมารับเย็บผ้าด้วย ได้รายได้ประมาณวันละ 100 บาท กลายเป็นเสาหลักคนใหม่ของครอบครัว ยายอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ และเลี้ยงดูลูกชายเพียงลำพังมาตลอด 30 ปี นานวันเข้า ลูกชายคนเล็กแยกไปทำงานที่กรุงเทพ จึงเหลือยายอยู่ที่บ้านหลังนี้กับลูกชายคนกลาง

และเมื่อต้นปีที่แล้ว ลูกชายคนโตที่แยกไปมีครอบครัวก็เกิดอุบัติโดนรถเฉี่ยว เลือดคั่งในสมอง กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ภรรยาเลี้ยงดูไม่ไหว เลยมาส่งไว้ที่ รพ. แม่สอด เพื่อให้ยายดูแล เท่ากับว่ายายเพียงคนเดียว ต้องดูแลลูกชายที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ถึง 2 คน

“เขาอยู่โรงพยาบาล ยายก็จะขังบิ๊ก (ลูกชายคนกลาง) ไว้ในบ้านก่อน แล้วค่อยปั่นจักรยานวันละ 2 กม. ไปดูแลบี (ลูกชายคนโต) คอยป้อนข้าว ป้อนน้ำ ทำความสะอาด ไปคุยเล่น พอไปเจอเขา เขาก็จะจับมือแน่นเลย ไม่อยากให้กลับบ้าน”

แต่แล้ว มรสุมครั้งใหญ่ก็พัดมาอีก เมื่อบ้านของยายคำพลอย ถูกไฟไหม้วอดทั้งหลัง จนแทบไม่เหลืออะไรเลย แม้กระทั่งชีวิตของตัวเองและลูก แต่เคราะห์ดีที่ “น้องข้าวปลาย” เด็กสาวที่อยู่บ้านใกล้กัน วิ่งเข้ามาช่วยอุ้มยาย และพาบิ๊กออกจากกองเพลิง

หลังจากไฟไหม้ครั้งนั้น ทั้งยายและลูกชายคนกลางต้องยายไปอยู่อาศัยที่ป้อมยามในหมู่บ้านชั่วคราว เพราะกลัวว่าลูกจะทำร้ายคนอื่น และไม่อยากรบกวนญาติ ซึ่งระหว่างนั้นก็มีเพื่อนบ้านช่วยกันบริจาคข้าวของจำเป็น และเงินบางส่วนมาไว้ให้ประทังชีวิต ขณะที่เทศบาลนครแม่สอด อบจ. จังหวัดตาก และกองทัพบก ก็กำลังช่วยกันระดุมทุน และสร้างบ้านหลังใหม่ให้

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้น นอกจากจะทำให้ยายและบิ๊กไม่เหลืออะไรเลย ยังทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคนกลัวไฟ แต่ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นแล้ว

ร่างกายเริ่มโรยรา

ปัญหาจากภายนอกว่ารุนแรงแล้ว แต่ปัญหาภายในอย่างร่างกายที่เริ่มโรยรา ก็เป็นมรสุมหนักไม่แพ้กัน เมื่อยายคำพลอย เจออุบัติเหตุลื่นล้มหัวฟาดพื้น สลบไป แต่ฟื้นขึ้นมาเอง และไม่ไปรักษา เพราะห่วงลูก จนทำให้ตาฝ้าฟาง มองไม่ชัด ปวดหัว และเวียนหัวมาก และได้ยินเสียงดังในหูตลอดเวลานอน มาจนถึงทุกวันนี้

ฮึดสู้เพราะลูก

เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้ยายคำพลอยสู้ชีวิตขนาดนี้ ยายบอกว่า “เพราะความเป็นแม่ ที่ปฏิเสธลูกไม่ได้สักคน ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ต้องพยายามไหวต่อไป”

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุไฟไหม้ “บิ๊ก” ลูกชายคนกลางก็เปลี่ยนไปในทางดีขึ้น จากเดิมที่กลัวคนเยอะ ไม่ชอบอยู่กับใคร ก็สามารถอยู่กับคนเยอะๆ ได้ พูดคุยกับคนอื่นได้ ไม่โมโหร้ายแล้ว เพราะเริ่มเชื่อใจคนอื่นมากขึ้น

ขณะที่ลูกชายคนโตก็เริ่มอาการดีขึ้น มีโอกาสกลับมารักษาตัวที่บ้านได้ ซึ่งยายคำพลอยตั้งความหวังไว้ว่าหลังจากที่บ้านหลังใหม่สร้างเสร็จแล้ว จะพาลูกชายคนโตกลับมาดูแลเองที่บ้าน เพื่ออยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครอบครัว

หากใครกำลังท้อใจกับมรสุมชีวิตในช่วงนี้ เราหวังว่าเรื่องราวของยายคำพลอยจะเป็นหนึ่งในพลังใจให้คุณมีแรงสู้ต่อไป และไม่ท้อแท้กับโชคชะตา

ให้ความช่วยเหลือยายคำพลอย

ชุมชนบ้านสองแคว 2 ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก

เลขบัญชี ธนาคารกรุงเทพ

นางคำพลอย กสิผล 303-7-04258-1

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า