ผบ.ตร. แต่งตั้ง “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” กำกับคดีระเบิดในกรุงเทพฯ “พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมทีมงานระดับมือพระกาฬของสตช. กำชับทำงานโดยเร็วและระมัดระวังเรื่องการสอบสวน
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 459/2562 เรื่องแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยระบุว่า ด้วยเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2562 เวลาประมาณ 15.45 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดมาวางด้านหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
และวันที่ 2 สิงหาคม 2562 ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณสถานที่ราชการ แหล่งชุมชน และพื้นที่สาธารณะ และเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารของเอกชนหลายแห่ง ในเขตท้องที่ สถานีตำรวจนครบาลพญาไท, ทุ่งสองห้อง, หัวหมาก, ปทุมวัน, ยานนาวา สถานีตำรวจภูธรปากเกร็ด ซึ่งเกิดเหตุในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย
เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในวงกว้าง จำเป็นจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน รอบด้าน หาความเชื่อมโยงเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 11 (4) ประกอบคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญาการทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบ เร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา บทที่ 4 ข้อ 2.5.4 จึงแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้
ส่วนบังคับบัญชา
- พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ
- พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการ สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ
มีอำนาจหน้าที่
- อำนวยความยุติธรรม ควบคุม กำกับ ดูแล และกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนให้ครอบคลุมครบถ้วนตามพฤติการณ์แห่งคดีและองค์ประกอบในการกระทำความผิดในอันที่จะทราบข้อเท็จจริง หรือ พิสูจน์ความผิดและนำตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
- ตรวจสอบ เร่งรัด พนักงานสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบให้รีบดำเนินการสืบสวนสอบสวนแสวงหารวบรวมพยานหลักฐาน สืบสวนจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดจนให้คำแนะนำปรึกษาแก่พนักงานสืบสวนสอบสวนในกรณีที่เกิดปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำสั่งดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังได้แต่งตัั้ง พนักงานสืบสวนสอบสวน 11 คน รับผิดชอบคลี่คลายคดีระเบิดในกรุงเทพฯ ในครั้งนี้ โดยมี พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น หัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมทีมมือสืบสวนและสอบสวนระดับต้นๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีรายชื่อ รองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ดังนี้
- พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
- พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
- พล.ต.ท.พงษ์วุฒิ พงษ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8
- พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
- พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
- พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
- พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการ สำนักงานกฎหมายและคดี
- พล.ต.ท.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง
- พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
- พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัต ผู้บังคับการ กองคดีอาญา สำนักงานกฎหมายและคดี
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังกำชับในคำสั่งว่า ให้พนักงานสืบสวนสอบสวนผู้รับผิดชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ร่วมทำการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงในคดีอาญาที่เกิดขึ้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและหากการสืบสวน พบว่า มีการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่องกันหรือผู้กระทำผิดอื่นอีก ก็ให้มีอำนาจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในความผิดนั้นๆ ด้วย
โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่ง และกฎหมายโดยเคร่งครัด แล้วรายงานผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบความคืบหน้าทุกระยะ นอกจากนี้ยังกำชับด้วยว่า ในการสอบสวนให้พนักงานสืบสวนสอบสวนพึงระมัดระวังเรื่องอำนาจการสอบสวน โดยจะต้องมีพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจทำการสอบสวนร่วมในการสอบสวนด้วยทุกครั้ง