SHARE

คัดลอกแล้ว

ชุดสืบสวน บช.น. เร่งลงพื้นที่หาพยานหลักฐานเพิ่ม พบคนร้ายทำงานกันเป็นทีม ก่อเหตุใช้ระเบิดแสวงเครื่อง 8 จุด ระเบิดเพลิง 2 จุด คาดเตรียมแถลงคืบหน้าได้พรุ่งนี้ โดย ผบ.ตร.ตั้งทีมขึ้นมาสืบสวนเรื่องนี้โดยเฉพาะ และมีตำรวจสืบสวนชุดเดียวกับที่คลี่คลายคดีระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และที่แยกราชประสงค์ ส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับได้ 2 คน ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน และยังไม่ระบุสาเหตุได้

วันนี้ (3ส.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ถูกใช้เป็นวอร์รูมในการประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีระเบิดทั้ง 10 จุด ในกรุงเทพมหานคร โดยคดีนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งชุดสืบสวน โดยมีพลตำรวจเอก ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าชุดควบคุม รวมทั้งมีตำรวจชุดสืบสวนที่เคยคลี่คลายคดีระเบิดในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า รวมทั้งที่แยกราชประสงค์ด้วย

ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการก่อเหตุได้ แต่เบื้องต้นพบว่าหลายจุดมีความเชื่อมโยงกัน ทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบ และสถานที่ที่มาก่อเหตุเป็นสัญลักษณ์ ขณะเดียวกันก็จะตรวจสอบเหตุระเบิดที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ เพื่อหาความเชื่อมโยงด้วย

ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยชาย 2 คน ที่วางระเบิดปลอมหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจับกุมได้ขณะหลบหนีลงพื้นที่ภาคใต้ คือ นายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ได้นำตัวมาสอบปากคำ ที่ศูนย์สืบสวน บชน. ตั้งแต่ 02.00 น. วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง

ล่าสุด บรรยากาศตอนนี้ที่ ศูนย์สืบสวน บชน. ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ยังถูกควบคุมตัวสอบปากคำอยู่ โดยยังคงให้การปฏิเสธ บอกเพียงแค่นั่งรถกลับบ้านเท่านั้น  แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติเดินทางมาขอเยี่ยม แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ให้เข้าพบ ซึ่งทางญาติก็ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์

ขณะที่ความคืบหน้าการสืบสวน ฝ่ายสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กระจายกำลังไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตามจุดต่างๆที่เกิดเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ โดยแนวทางการสืบสวน ระบุไว้ทั้งหมด 10 จุด ประกอบด้วยหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ทางเข้าศูนย์ราชการ อาคารบี, ทางออกศูนย์ราชการ อาคารบี, หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย, ใกล้กองบัญชาการกองทัพไทย, หน้าคิงพาวเวอร์มหานคร ถนนนราธิวาสราชนครินทร์, ลานจอดรถ หน้าตึกคิงพาวเวอร์มหานคร, สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ศรีสมาน , ตลาดประตูน้ำ, ร้านค้าย่านสยามสแควร์

โดยพบว่าระเบิดที่ใช้ก่อเหตุมี 2 ชนิด เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ชนิดประดิษฐ์เอง ก่อเหตุทั้งหมด 8 จุด ส่วนอีกสองจุด เป็นระเบิดเพลิงคือที่สยามและประตูน้ำ

ซึ่งข้อมูลทางการสืบสวนในขณะนี้ พบว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น คนร้ายทำงานกันเป็นทีม และมีการวางแผนดูลาดเลา ก่อนนำระเบิดมาซุกซ่อนไว้และจุดชนวนให้เกิดเหตุในเวลาไล่เลี่ยกัน

ส่วนการทำงานในวันนี้ หลังแบ่งหน้าที่กันสืบสวนตามจุดต่างๆแล้ว จะมีการประชุม สรุปความคืบหน้าเวลา 21.00 น.

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่าระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จุดชนวน ด้วย IC-timer รัศมีฉกรรจ์ 10-15 เมตร ตั้งเวลาจุดระเบิดไว้ตั้งแต่ 06.00-09.00 น. วันที่ 2 ส.ค. โดยลักษณะระเบิดชนิดนี้ เหมือนกับที่ใช้ก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่จะเกี่ยวข้องกับหรือไม่ เป็นหน้าที่ของชุดสืบสวนสอบสวน

ล่าสุด พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สตช. เผยว่าการสอบปากคำ 7 เยาวชนมือระเบิดปิงปองที่ ถ.พระรามเก้า ยังไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับระเบิดที่จุดอื่นๆ ใน กทม. และยังไม่ขอยืนยันเรื่องการจับกุม 2 ผู้ต้องหาจากภาคใต้ เมื่อวานนี้ว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิด หน้า สตช.

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า