สรุปเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มป่วนปัตตานี ใน 3 อำเภอ เงินหายจากตู้ กำแพงโรงเรียนบ้านประชาชนเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี สอบสวนโยงเหตุระเบิดกรุงเทพฯ หรือไม่
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 4 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดปัตตานี ว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม (ATM) เผายางรถยนต์และใช้อาวุธปืน ใน 3 อำเภอ จนได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เหตุการณ์แรก เป็นตู้ ATM ของธนาคารอิสลาม ตั้งอยู่ริมกำแพงโรงเรียนมูลนิธิอาซิสสถาน ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ แรงระเบิดทำให้ตู้ที่อยู่ติดกับกำแพงโรงเรียนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ ยังมีการก่อกวนโดยการนำยางรถยนต์เผากลางถนน จำนวน 3 จุด คือ 1.บนถนนสาย 409 หน้า ร.ร.อาซิซสถาน ต.นาประดู่ 2.บนถนนสาย 42 บ.ชะเมา ต.นาเกตุ และ 3.บนถนนสาย 42 แยกตัดคลองชลประทาน บ.โพธิ์ ต.นาเกตุ รวมเหตุในพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ 4 จุด
เหตุการณ์ที่ 2 เวลาไล่เลี่ยกัน ลอบวางระเบิดตู้ ATM ธนาคารอิสลาม วางอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยฟาฏอนี บ้านโสร่ง หมู่ที่ 3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง แรงระเบิดทำให้ตู้ได้รับความเสียหายเช่นกัน ตรวจสอบพบว่า เป็นระเบิดแบบลากสายไฟ
เหตุการณ์ที่ 3 ลอบวางระเบิดตู้ ATM ของธนาคารอิสลาม ตั้งอยู่บริเวณโรงเรียนศาสนศึกษา ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี แรงระเบิดทำให้ตู้และกำแพงโรงเรียนพังเสียหาย จุดนี้เป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา
ต่อมาเวลา 07.00 น. พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อม พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เดินทางไปตรวจสอบเหตุลอบวางระเบิดตู้ ATM บริเวณกำแพงโรงเรียนมูลนิธิอาซิสสถาน อ.โคกโพธิ์ ปรากฏว่า ระหว่างทางพบตะปูเรือใบเศษซากยางรถยนต์และปลอกกระสุนปืนอาก้าและลูกซองกระจายอยู่กลางถนน ห่างจากจุดระเบิด ประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดเส้นทางดังกล่าวชั่วคราวเพื่อเคลียร์เส้นทาง
เมื่อไปถึงพบว่าตู้ ATM ถูกแรงระเบิดจนพังเสียหาย นอกจากนี้ยังทำให้กำแพงโรงเรียนและผนังอาคารของบ้านเลขที่ 102/1 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำเสียหายด้วย จากการตรวจสอบพบชิ้นส่วนวงจรระเบิด สายไฟ และชิ้นส่วนระเบิด กระจายไปทั่วบริเวณ และพบว่าเงินในตู้ได้หายไปด้วย
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า จุดเกิดเหตุที่ ต.นาประดู่ คนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน กระจายกำลังในการก่อเหตุ โดยชุดแรกนำระเบิด น้ำหนักประมาณ 5 กก. แบบลากสายไฟมาวางไว้ที่ตู้ ATM ก่อนจะจุดชนวนระเบิดจนทำให้ตู้พังเสียหาย แล้วได้เข้าไปขโมยเงินในตู้ทั้งหมดไป ขณะที่คนร้ายอีก 2 ชุดได้เผายางรถยนต์และโปรยตะปูเรือใบปิดเส้นทางทั้ง 2 เส้นทาง เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม ก่อนจะหลบหนีได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่และเปิดทางหลบหนี
ส่วนอีกสองจุดคนร้ายไม่สามารถขโมยเงินจากตู้ไปได้ โดยเชื่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่มีหมายจับคดีความมั่นคงในพื้นที่ ซึ่งตนแจ้งไปยังโรงพักทุกแห่งทั้ง 12 อำเภอ ให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ดูแลความปลอดภัยสถานที่ราชการ ธนาคาร ตลาด ร้านสะดวกซื้อ รวมไปถึงย่านชุมชน เนื่องจากยังพบข้อมูลการเคลื่อนไหวของคนร้ายพยายามที่จะก่อกวนในหลายพื้นที่
ส่วนจะเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดที่กรุงเทพหรือไม่ ต้องรอการตรวจสอบจากพยานหลักฐานให้แน่ชัดอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการลอบวางระเบิดตู้ ATM ทั้ง 3 แห่งใกล้กับสถานศึกษา ซึ่งเป็นตู้ที่ผู้ปกครองใช้ส่งเงินให้นักเรียนต้องเบิกใช้เงินเพื่อใช้จ่าย เมื่อเสียหายก็ส่งผลกระทบกับนักเรียนแน่นอน เชื่อว่า คนร้ายพยายามแสดงศักยภาพในการตอบโต้เจ้าหน้าที่แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ตนได้กำชับให้รวบรวมวัตถุพยานและตรวจสอบกล้องทุกตัวเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้