เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนไฟสัญญาณจรากลางแยกไฟแดง จ.ชุมพร พบเป็นรถตำรวจจราจรสุราษฎร์ธานี ถูกวัยรุ่นเมายาพึ่งพ้นโทษมาได้ 3 วัน ขโมยรถซิ่งมาไกลนับ 100 กิโลเมตร
วันที่ 26 พ.ค. 2562 เวลา 01.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.สนิท นุ้ยพิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ชนไฟสัญญาณจราจรและเสาไฟฟ้า สามแยกวังตะกอ หมู่ที่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณสามแยกวังตะกอ ซึ่งเป็นสามแยกจากถนนเอเชีย จ.ชุมพรไปยัง จ.ระนอง พบเสาไฟจราจร 3 ต้น ล้มระเนระนาด ขวางเส้นทางห่างจากจุดไฟจราจรไปประมาณ 50 เมตร พบรถยนต์กะบะตอนครึ่ง สีบอรนซ์เงิน คาดด้วยสีน้ำตาล ด้านข้างรถเขียนว่า สภ.เมืองสุราษฏร์ธานี ในสภาพรถอัดติดกับเสาไฟฟ้า พังยับเยิน ด้านหน้ารถยุบเกือบถึงห้องโดยสาร ตัวรถหักครึ่งกลาง ข้างๆรถพบ นายอัครเดช อายุ 20 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อยู่ในอาการคล้ายคนเมายาเสพติดอย่างหนัก พูดจาวกไปวนมา
นายอัครเดช อ้างว่า คนที่ขับรถยนต์สายตรวจจราจรสุราษฏร์ เป็นตำรวจ ชื่อ ร.ต.ท.อัครเดช เหมือนกัน เป็นพี่ชาย ที่จะขับรถคันดังกล่าวไปส่งบ้านที่ จ.เลย แต่ไม่รู้หายไปไหน คาดว่าน่าจะกระเด็นออกนอกรถ ทำให้หน่วยกู้ภัยหลังสวน ต้องค้นหาในคูระบายน้ำริมถนน แต่ไม่พบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจภายในรถ พบรองเท้าของนายอัครเดชหล่นอยู่ในจุดที่นั่งคนขับ จึงมั่นใจว่า นายอัครเดช ขับรถมาเพียงลำพัง แต่ด้วยอาการหลอน ทำให้คิดว่า มี หมวดอัครเดชขับมาแล้วให้ตนเองนั่ง จากการตรวจค้นในกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิงที่นายอัครเดชสะพายพบ วิทยุสื่อสารของตำรวจ 4 เครื่อง บัตรประชาชน ของผู้หญิงชาวสุราษฏร์ อีก 2 ใบ อุปกรณ์เสพยาบ้า 1 อัน
ต่อมา ศูนย์วิทยุ สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 สุราษฏร์ธานี ให้ช่วยสังเกตรถยนต์กะบะตราโล่ ด้านข้างเขียนไว้ว่า สภ.เมืองสุราษฏร์ธานี เนื่องจากรถคันดังกล่าว ถูกคนร้ายขโมยไปจากป้อมตำรวจจราจร ใจกลางเมืองสุราษฏร์ธานี เนื่องจากเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้าไปรื้อค้นในป้อมตำรวจจราจรสุราษฏร์ธานี จนทรัพย์สินกระจัดกระจายไปทั่ว ก่อนจะพบว่ารถยนต์สายตรวจหายไปด้วย
ตำรวจหลังสวนจึงแจ้งตำรวจสุราษฏร์ไปว่า พบรถยนต์ของจราจรสุราษฏร์ธานีคันดังกล่าวแล้ว ซึ่งรถยนต์คันนี้มาเกิดเหตุในพื้นที่ อ.หลังสวน ห่างจาก ป้อมตำรวจจราจรสุราษฏร์ธานีถึง 100 กิโลเมตร
นายอัครเดชยังคงให้การวกไปวนมาว่า ต่อมาทราบว่านายอัครเดชพึ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาได้เพียง 3 วัน ในข้อหาค้ายาบ้า และต้องการเดินทางกลับบ้านที่ จ.เลย พร้อมทั้งยังเสพยาเสพติดจำนวนมาก ก่อนจะเดินไปพบป้อมตำรวจและเห็นกุญแจรถยนต์ตำรวจติดคาอยู่จึงเข้าไปขับ และมาชนกับเสาไฟจราจร จนถูกจับได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำตัวนายอักครเดชไปตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียด ก่อนจะส่งตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป